วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2568

นายกฯอิ๊งค์ เปิดพื้นที่ เมืองน่าเที่ยว มอบโอกาส local to global และฉลอง Grand Year ใช้พื้นที่ ITB Berlin บูมเสน่ห์ไทย-ซอฟท์พาวเวอร์ไทย

นายกฯอิ๊งค์ เปิดพื้นที่ เมืองน่าเที่ยว มอบโอกาส local to global 

และฉลอง Grand Year ใช้พื้นที่ ITB Berlin

บูมเสน่ห์ไทย-ซอฟท์พาวเวอร์ไทย

ผงาด 3 เป้าหมาย “จุดหมายโลก-ฮับบิน-ทัวร์ยั่งยืน”

      นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมคูหาประเทศไทย พร้อมพบปะผู้ธุรกิจท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติที่เข้าร่วมงาน ITB Berlin และเป็นประธานเปิดงานยิ่งใหญ่ Amazing Thailand Networking Event ที่อาคาร ซิตี้ คิวบ์ เบอร์ลิน ประกาศปีท่องเที่ยว Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ด้วย “ซอฟท์ พาวเวอร์” เสน่ห์ไทย ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวนานาชาติ โดยได้นำเสนอ 3 เป้าหมายใหญ่ ได้แก่ เป้าหมายที่ 1 ศักยภาพไทยพร้อมจะเป็นประเทศจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก เป้าหมายที่ 2 เป็นศูนย์กลางทางการบินของภูมิภาค เป้าหมายที่ 3 เร่งขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน

       นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งขับเคลื่อนให้ไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก (World-Class Destination) โดยได้ขับเคลื่อนนโยบายให้การท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ จะทำให้เกิดเงินหมุนเวียนหลั่งไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกระจายทั่วถึงทั้งประเทศ ในโอกาสพิเศษปี 2568 รัฐบาลได้ประกาศปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 สร้างจุดขายการท่องเที่ยวไทยผ่าน ซอฟท์ พาวเวอร์ รวมทั้งเป็นครั้งแรกในงาน ITB Berlin 2025 ได้ชูเมืองน่าเที่ยวที่มีศักยภาพเสนอขายในตลาดโลก 18 จังหวัด

       ปี 2568 ประเทศไทยตั้งเป้าจะดึงนักท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศเดินทางเข้ามาเยือนไม่ต่ำกว่า 39 ล้านคน สร้างรายได้รวม 3.5 ล้านล้านบาท ทุกภาคส่วนพร้อมใจกันจัดกิจกรรมกระตุ้นตลอดทั้งปี ประกอบด้วย

“เทศกาลท่องเที่ยว”  ไฮไลต์ซอฟท์ พาวเวอร์ งานเทศกาลประเพณีที่มีชื่อเสียงติดระดับโลกโดยเฉพาะ “สงกรานต์” จะจัดยิ่งใหญ่ “Maha Songkran World Water Festival 2025 และเทศกาลยอดนิยมอย่าง Pride Month ลอยกระทง และอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ เคาน์ดาวน์

“เทศกาลกีฬา” ไทยเตรียมพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเล่ย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก (FIVB Women's Volleyball World Championship 2025) และซีเกมส์ 2025

         ขณะนี้รัฐบาลมุ่งอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้นักท่องเที่ยวด้วยมาตรการต่างๆ ที่ส่งผลเชิงบวกต่อเนื่อง ได้แก่ 

มาตรการที่ 1 ยกเว้นวีซ่าให้กับผู้เดินทางทั่วโลกจาก 93 ประเทศ 

มาตรการที่ 2 เปิดให้ทำ  e-Visa สร้างความสะดวกและสร้างแรงจูงใจให้นักเดินทางรุ่นใหม่ใช้บริการอย่างคล่องตัว

มาตรการที่ 3 ระบบ ตม.6 ออนไลน์ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการจะนำมาใช้ปฏิบัติได้เร็วๆ นี้

         รัฐบาลไทยยังได้ผลักดันให้ประเทศเป็นศูนย์กลางทางการบินของภูมิภาค (Aviation Hub) โดยขยายการลงทุนเพิ่มพื้นที่บริการ 2 ท่าอากาศยานหลักคือ “สุวรรณภูมิและดอนเมือง” ไปพร้อม ๆ กับยกระดับสนามบินภูมิภาค เพิ่มศักยภาพรองรับผู้โดยสารให้ได้มากถึงปีละ 250 ล้านคน แล้วยังเดินหน้ายกระดับบริการเดินทางเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อด้วยระบบขนส่งสาธารณะและระบบราง

         รวมทั้งผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางบริการสุขภาพและการแพทย์องค์รวม : Wellness and Medical Hub ขณะนี้ตลาดนี้เติบโตต่อเนื่องทั้งรายได้และจำนวนผู้ใช้บริการจากตลาดทั่วโลก ด้วยมาตรฐานสิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์ที่นานาชาติยอมรับ รวมถึงมีความเชี่ยวชาญหลายสาขา ประการสำคัญทำ “ราคา” แข่งขันได้ สร้างความเชื่อมั่นให้ไทยจะสามารถดึงดูดการลงทุนและขยายการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเติบโตอย่างมีนัยสำคัญได้ในอนาคตอันใกล้นี้

         รัฐบาลไทยยังมุ่งมั่นขับเคลื่อนนโยบายสร้างความเชื่อมั่นทางด้านความปลอดภัยและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ปรับโฉมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สนับสนุนมาตรฐานความยั่งยืนแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ

           ปี 2569 ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดงาน the Global Sustainable Tourism Council Global Conference ที่จังหวัดภูเก็ต โดยจะร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชนท้องถิ่น ขับเคลื่อนประเทศสู่ความยั่งยืนเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง

#ITBBerlin2025 #amazingthailand

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นายกฯอิ๊งค์ เปิดพื้นที่ เมืองน่าเที่ยว มอบโอกาส local to global และฉลอง Grand Year ใช้พื้นที่ ITB Berlin บูมเสน่ห์ไทย-ซอฟท์พาวเวอร์ไทย

นายกฯอิ๊งค์ เปิดพื้นที่ เมืองน่าเที่ยว มอบโอกาส local to global  และฉลอง Grand Year ใช้พื้นที่ ITB Berlin บูมเสน่ห์ไทย-ซอฟท์พาวเวอร์ไทย ผงาด...