วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

ททท. จับมือ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการให้คำปรึกษา วิเคราะห์ วางแผน และสนับสนุนกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และยานยนต์พลังงานใหม่

ททท. จับมือ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) 

ว่าด้วยความร่วมมือด้านการให้คำปรึกษา วิเคราะห์ วางแผน 

และสนับสนุนกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และยานยนต์พลังงานใหม่

           การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  จับมือ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการให้คำปรึกษา วิเคราะห์ วางแผน และสนับสนุนกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และยานยนต์พลังงานใหม่ เดินหน้าสู่ปีที่ 2 พร้อมขยายเส้นทางการเดินทางสู่สถานที่อันซีนแปลกใหม่ (Unseen Destinations) ทั้งในประเทศไทยและประเทศใกล้เคียง โดยได้รับเกียรติจาก นายกิตติ เชาวน์ดี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองประธานฝ่ายการตลาด ประจำภูมิภาคอาเซียน มร. ไมเคิล ฉง ผู้จัดการทั่วไป และนายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ให้เกียรติร่วมงาน ณ GWM Experience Center ศูนย์การค้า ICONSIAM เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566

            นายกิตติ เชาวน์ดี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงกับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ครั้งนี้ สะท้อนถึงความตั้งใจของภาครัฐและภาคเอกชนในการร่วมมือกันขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติของรัฐบาลและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยด้วยนวัตกรรมของอุตสาหกรรมยานยนต์และผลักดันประเทศไทยเดินหน้าสู่การเป็นธรรมาภิบาลคาร์บอนอย่างต่อเนื่อง โดยวางแผนสนับสนุนกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และสร้างความร่วมมือทางธุรกิจด้านการท่องเที่ยวด้วยยานยนต์พลังงานใหม่ ทั้งยังมุ่งหวังให้เกิดการประชาสัมพันธ์ Soft Power วัฒนธรรมไทยที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ เชื่อมโยงสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ในภูมิภาคต่าง ๆ  อันจะส่งผลดีต่อการพลิกฟื้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศด้วยการท่องเที่ยว

           นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ภายใต้ความร่วมมือปีที่ 2 ททท. กำหนดแผนความร่วมมือเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้ใช้รถยนต์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากตลาดระยะใกล้ ประเทศจีนและประเทศอาเซียน ด้วยการจัดกิจกรรมคาราวานขับรถท่องเที่ยวด้วยรถยนต์พลังงานใหม่มุ่งหน้าสู่ภาคอีสานของประเทศไทย จำนวน 100 คัน เจาะกลุ่มลูกค้าของ GWM TANK รถยนต์เอสยูวีระดับพรีเมียม ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและชื่นชอบการขับรถท่องเที่ยวในเส้นทางที่ท้าทาย พร้อมนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ (Unseen Destinations) ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างเส้นทางการท่องเที่ยวของยานยนต์ไฟฟ้าไทยให้แข็งแกร่งได้มาตรฐานระดับสากลอย่างเป็นรูปธรรม นำสู่การสร้างรายได้สู่จังหวัดสำคัญในภูมิภาคต่างๆ และให้การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสิ่งแวดล้อมตามกลยุทธ์ขององค์กร

            นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองประธานฝ่ายการตลาด ประจำภูมิภาคอาเซียน เกรท วอลล์ มอเตอร์ กล่าวว่า เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ผนึกกำลังกับ ททท. เดินหน้าพันธกิจเข้าสู่ปีที่ 2 เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าและกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์อย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม ทั้งในภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทยให้ทัดเทียมระดับสากล ผ่านการนำเสนอรถยนต์พลังงานสะอาด ควบคู่บริการคุณภาพให้แก่ผู้บริโภค รวมทั้งเพิ่มความคึกคักด้วยการผจญภัยท่องเที่ยวไปสู่จุดหมายปลายทางใหม่ที่จะเพิ่มสีสันการเดินทางให้กับนักท่องเที่ยวยิ่งขึ้น และยังได้สะท้อนความตั้งใจขององค์การในการดำเนินกิจกรรมเพื่อพัฒนานวัตกรรมที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยเสริมสร้างความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน

           นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า เกรท วอลล์ มอเตอร์ ร่วมกับพาร์ทเนอร์ (Partner) เช่น โรงแรม ร้านอาหาร หรือสินค้าและการบริการต่าง ๆ รวม 20 แห่งทั่วกรุงเทพฯ มอบสิทธิพิเศษ (GWM Privileges) สำหรับลูกค้าเกรท วอลล์ มอเตอร์ ผ่านแอปพลิเคชัน GWM ส่งมอบไลฟ์สไตล์และประสบการณ์การท่องเที่ยวสุดเอ็กคลูซีฟ โดยลูกค้าสามารถใช้คะแนนสะสม (GWM Point) แลกเป็น E-Voucher ในการเข้ารับบริการต่าง ๆ และพิเศษสำหรับโปรแกรม GWM Privileges นี้ ไม่เพียงเท่านั้น บริษัทฯ ยังมอบส่วนลดการแลกคะแนนสุดคุ้ม (Special Redemption Discount) เพิ่มเติมให้แก่ลูกค้าอีกด้วย โดย E-Voucher นี้สามารถใช้ได้ที่จุดหมายปลายทางได้ทันที ทั้งนี้ สามารถใช้คะแนนสะสมและแลกรับ E-Voucher ได้ตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 -31 ธันวาคม 2566 หรือจนกว่าสิทธิพิเศษ E-Voucher จะหมด

            พันธกิจในปีนี้ของทั้งสองหน่วยงาน ยังคงมุ่งมั่นสานต่อความสำเร็จจากการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา เพื่อตอกย้ำการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้วยรถยนต์พลังงานใหม่ และกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวภายในประเทศ ด้วยคาราวานยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายในประเทศไทย รวม 5 เส้นทาง 5 ภูมิภาค กับ GWM ภายใต้แนวคิด “สุขกาย สุขใจ สุขทันที ที่เที่ยวไทย” ประกอบด้วย 

เส้นทางที่ 1 ภูมิภาคภาคกลาง เส้นทาง ลุยธรรมชาติ กับรถ GWM TANK off road SUV สุดเท่ จังหวัดกาญจนบุรี 

เส้นทางที่ 2 ภูมิภาคภาคเหนือ เส้นทาง UNESCO อโยธยา สู่ ทวาราวดี ศรีเทพ ย้อนรอยประวัติศาสตร์กับ GWM HAVAL H6 HEV จังหวัดพระนครศรีอยุธยา - ลพบุรี – เพชรบูรณ์

เส้นทางที่ 3 ภูมิภาคภาคอีสาน เส้นทาง GEO PARK ตามรอยจูราสสิคพาร์ค มุ่งหน้าสู่ภาคอีสานกับ GWM HAVAL JOLION HEV จังหวัดสระบุรี – นครราชสีมา 

เส้นทางที่ 4 ภูมิภาคภาคใต้ เส้นทางตามหาสมบัติบนเขาใต้ท้องทะเลอ่าวไทย กับ GWM HAVAL H6 HEV จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร 

และ เส้นทางที่ 5 ภูมิภาคภาคตะวันออก เส้นทาง 3 สมุทร กับน้องแมวสุดคิ้วท์ GWM ORA จังหวัดสมุทรปราการ -  สมุทรสาคร – สมุทรสงคราม 

เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และกระตุ้นให้เกิดการสร้างรายได้ให้แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว พร้อมยกระดับประเทศไทยเป็นต้นแบบให้การเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศก้าวสู่ธรรมาภิบาลคาร์บอนอย่างสมบูรณ์ สะท้อนศักยภาพของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่มีคุณค่า รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและเติบโตอย่างยั่งยืน


ททท. สำนักงานน่าน ร่วมกับหน่วยงานภาคีด้านการท่องเที่ยว จัดงาน Winter Nan Coffee Lover 2023

ททท. สำนักงานน่าน ร่วมกับหน่วยงานภาคีด้านการท่องเที่ยว จัดงาน Winter Nan Coffee Lover  2023

            การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานน่าน ร่วมกับหอการค้าจังหวัดน่าน ชมรมกาแฟน่าน ชมรมกาแฟพิเศษน่าน สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวน่าน สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวน่าน และภาคีเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวจังหวัดน่าน จัดงานสำหรับคนรักกาแฟได้มาเปิดประสบการณ์ การดื่มกาแฟท่ามกลางธรรมชาติ ณ บริเวณสวนสาธารณะริมแม่น้ำน่าน สะพานพัฒนาภาคเหนือ ระหว่างวันที่ 8  - 10 ธันวาคม 2566 ภายใต้ชื่องาน Winter Nan Coffee Lover  2023  ภายในงานได้คัดสรรร้านกาแฟ และคาเฟ่ ที่ขึ้นชื่อ    ของจังหวัดน่าน มาร่วมออกร้านและจำหน่าย พร้อมเนรมิตบรรยากาศ ให้มีกลิ่นอายของกาแฟทั่วทั้งงาน                 นายโยธิน ทับทิมทอง ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานน่าน กล่าวว่าจังหวัดน่านถือเป็นแหล่งผลิตกาแฟที่สำคัญ เนื่องจากมีลักษณะภูมิประเทศที่เป็นพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากกว่า 700 เมตร พื้นที่ส่วนใหญ่ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ มีลักษณะเป็นภูเขาสูง มีอากาศหนาวเย็นซึ่งเหมาะสำหรับเพาะปลูกกาแฟทำให้จังหวัดน่านเป็นแหล่งเพาะปลูกกาแฟคุณภาพแห่งหนึ่งของประเทศไทย การจัดกิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์    เพื่อเป็นการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์กาแฟของจังหวัดน่าน ที่ได้รับรางวัลการแข่งขันระดับประเทศ ซึ่งเป็นการการันตีคุณภาพ และรสชาติของกาแฟน่านได้เป็นอย่างดี ดังนั้นการจัดงานดังกล่าว ต้องการให้คนน่านและนักท่องเที่ยวได้มีโอกาสลิ้มลอง และสัมผัสกาแฟน่านอย่างแท้จริง      

           ภายในงานพบกับกิจกรรมต่างๆ ที่ห้ามพลาด งานนี้เริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 – 18.00 น. ประกอบด้วย   การออกร้านกาแฟมาจากทุกดอยที่ขึ้นชื่อของจังหวัดน่านในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชิม และเลือกซื้อสินค้าเกี่ยวกับกาแฟ และนิทรรศการกาแฟน่าน งานคราฟ Food Truck และการแสดงบนเวทีกลาง เช่น กิจกรรม Barista on The Table, Latte Art Work Shop, การแข่งขัน Nan Drip  Championship Smackdown ได้รับการตอบรับจากผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศมาร่วมเป็นกรรมการตัดสินหลายท่าน 

           นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมพิเศษภายในงาน สำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ร่วมมากมาย เช่น ซื้อของภายในงานครบ 800 บาท แลกรับของที่ระลึกจาก ททท. สำนักงานน่าน และเมื่อท่านนำแก้วน้ำหรือปิ่นโตมาซื้อสินค้าภายในงาน รับส่วนลดการทำกิจกรรมโซนงานคราฟ และเมื่อใช้จ่ายครบ 500 บาท ท่านจะได้รับสิทธิ์ชิมกาแฟที่รังสรรค์จากนักชงกาแฟมืออาชีพในกิจกรรม Barista on The Table ทุกวัน และรับของที่ระลึกมากมายภายในงาน !!! อย่าพลาดงานนี้ช่วงฤดูหนาว สุขทันทีที่เที่ยวน่าน….กับงาน  Winter Nan Coffee Lover  2023 ระหว่างวันที่ 8 – 10 ธันวาคม 2566 ณ บริเวณสวนสาธารณะริมแม่น้ำน่าน สะพานพัฒนาภาคเหนือ ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน

สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ ททท. สำนักงานน่าน โทร. 054 711 217-8 โทรสาร 054 711 219 Facebook Page : TAT NAN ททท.สำนักงานน่าน LINE@ : tat.nan

เครือเฮอริเทจชวนมารื่นเริงและสุขภาพดีไปกับนานาสินค้า ลดราคาสนั่นในงานวันกาชาด 100 ปี

เครือเฮอริเทจชวนมารื่นเริงและสุขภาพดีไปกับนานาสินค้า 

ลดราคาสนั่นในงานวันกาชาด 100 ปี 

บูท เฮอริเทจ โซน B ณ สวนลุมพินี ประตู 2

            เครือเฮอริเทจ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการให้ พร้อมส่งสุขภาพที่ดีให้คุณที่ “งานวันกาชาด 100 ปี พุทธศักราช 2566” รื่นรมย์ไปกับสินค้าจากแบรนด์ชั้นนำ  อาทิ ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ “เฮอริเทจ”, ผลิตภัณฑ์อัลมอนด์และนมอัลมอนด์จากแคลิฟอร์เนีย “บลูไดมอนด์”, หลากหลายถั่วคุณภาพระดับพรีเมียมและเครื่องดื่มน้ำนมพิสทาชิโอ “ซันคิสท์”, ขนมขบเคี้ยวประเภทถั่วและเมล็ดพืช “นัท วอล์คเกอร์”, ผลิตภัณฑ์ธัญพืชและผลไม้อบแห้ง “เนเจอร์ เซ็นเซชั่น”, ข้าวโพดอบกรอบผสมถั่วพรีเมียม “วันเดอร์พัฟฟ์”, คุ้กกี้สไตล์โฮมเมด “ฟรังซัว”, ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก “เลอรูท” พร้อมสินค้าใหม่อย่าง “อัลมอนด์ บรีซ โยเกิร์ตพร้อมดื่ม” น้ำนมอัลมอนด์ผสมน้ำผลไม้แท้ และอื่นๆ อีกมากมาย

           เพลิดเพลินไปกับสินค้าและกิจกรรมที่น่าสนใจจากเครือเฮอริเทจในงานวันกาชาด 100 ปี ณ บูท เฮอริเทจ โซน B สวนลุมพินี ประตู 2 ทุกวันตั้งแต่ 8 – 18 ธันวาคม 2566 สอบถามเพิ่มเติมโทร 02-813-0954-5 หรือติดตามกิจกรรมและข่าวสารของเครือเฮอริเทจได้ที่ www.facebook.com/Heritagegroupth, www.instagram.com/heritagegroupth และ www.heritagethailand.com


"ฐาปนีย์" ผู้ว่าการ ททท. ร่วมในการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลกประจำปี 2566

"ฐาปนีย์" ผู้ว่าการ ททท. ร่วมในการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลกประจำปี 2566

        เมื่อวันที่  21 พฆศจิกายน 2566 นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมการประชุมเอกอัครราชทูต และกงสุลใหญ่ทั่วโลกประจำปี 2566





         นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ตนเองได้รับเชิญให้เป็น Guest Speaker กับท่านทูตและท่านกงสุล ได้แลกเปลื่ยนความคิดเห็น update สถานการณ์ในประเทศ และเสนอแนวคิดในการส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกัน คุยแลกเปลื่ยนกันยาว ได้ประโยชน์อย่างมาก




          ประทับใจ และพร้อมเดินไปด้วยกัน Team Thailand นำโดยท่านเอกอัครราชทูต และกงสุลใหญ่ในแต่ละประเทศ เป็นพันธมิตรที่จะช่วยประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ และเชื้อเชิญนักธุรกิจ พ่อค้า นักลงทุน และนักท่องเที่ยวคุณภาพ เข้าประเทศได้เป็นอย่างดี #Partnership360
#amazingthailand





ศึกฟุตบอลทนายความ PATTAYA LAWYERS CHAMPIONS CUP 2 nd 13 ทีมทนายความร่วมแข่งขันสุดคึกคัก

ศึกฟุตบอลทนายความ PATTAYA LAWYERS CHAMPIONS CUP 2 nd  

13 ทีมทนายความร่วมแข่งขันสุดคึกคัก

       ทีมสโมสรฟุตบอลทนายความพัทยา ลอว์เยอร์ ซิตี้ เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลทนายความ PATTAYA   LAWYERS CHAMPIONS CUP 2 nd   ณ สนาม889 ฟุตบอลคลับ เมื่อวันเสาร์ที่ 18 และวันอาทิตย์ที่ 19  พฤศจิกายน 2566

       ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน โดยมี นายธีรธร มรกตจินดา ประธานจัดการแข่งขัน กล่าวรายงาน นางสาวกนกอร สวัสดิ์รัมย์ ผู้จัดการร่วมทีมพร้อมกับทนายอนิรุท คงทรัพย์ และทนายสุขสันต์ มิสสาจันทร์ เพื่อนพี่น้องทนายความ รวมทั้งสมาคมแม่บ้าน ทีมสโมสรฟุตบอลทนายความพัทยาซิตี้ ดำเนินการแข่งขัน โดยได้รับเกียรติจากนายสัญญาภัชระ สามารถ อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ นายชลิต ขวัญแก้ว และนายภิรม ขวัญแก้ว กรรมการบริหารสภาทนายความภาค 2 และนายอรรถพร อัมพวา กรรมการบริหารสภาทนายความภาค 7 เข้าร่วมเปิดการแข่งขันในครั้งนี้

       และในนามคณะทำงาน,นักฟุตบอล,ผู้ให้การสนับสนุนงบประมาณการแข่งขันและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดทุกฝ่าย ขอขอบพระคุณท่านเป็นอย่างสูง ที่กรุณาให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน PATTAYA   LAWYERS CHAMPIONS CUP 2 nd ซึ่งมีทีมฟุตบอลทนายความเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 13 ทีม เพื่อชิงถ้วยรางวัลและเงินรางวัลนับกว่าแสนบาท และในการแข่งขันมีจุดประสงค์เพื่อสร้างมิตรภาพอันดีงามระหว่างพี่น้องวิชาชีพทนายความด้วยกัน แม้ทีมสโมสรฟุตบอลทนายความพัทยาซิตี้จะไม่ได้คว้าแชมป์ก็ตาม แต่นักฟุตบอลได้มีการพัฒนาทีม ทักษะการเล่นดีขึ้นอย่างมากและมีสมาชิกเพิ่มขึ้นนับว่าเป็นความสำเร็จของทีมก็ว่าได้ 

นอกจากนี้การจัดงานการแข่งขันยังได้รับคำชมเชยจากทุกฝ่ายว่า จัดงานการแข่งขันได้ยอดเยี่ยมนี้คือรางวัลและเป้าหมายสำคัญของเจ้าภาพในการจัดงานการแข่งขันในครั้งนี้ 


 

วันอังคารที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

ททท. ร่วมกับภาคเอกชนขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล ตามมาตรการ VISA Exemption ดันตลาดนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางเข้าไทย ไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านคน ทะลุเป้า ปี 2566

ททท. ร่วมกับภาคเอกชนขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล ตามมาตรการ VISA Exemption ดันตลาดนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางเข้าไทย ไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านคน ทะลุเป้า ปี 2566


           วันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 ณ อาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พบปะหารือกับคณะผู้แทนสมาคมอินเดียแห่งประเทศไทย และผู้บริหาร บริษัท Seatour ถึงแนวทางการกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวอินเดีย ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว ตามมาตรการอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวอินเดียเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว เพื่อการท่องเที่ยวเป็นกรณีพิเศษ และให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 ถึงวันที่ 10 พฤษภาคม 2567 รวมระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งสถานการณ์ตลาดนักท่องเที่ยวอินเดีย ยอดนักท่องเที่ยวสะสมปี 2566 จนถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 จำนวน 1,338,705 คน โดยมีอัตราเฉลี่ยการเดินทางเข้าประเทศไทย จำนวน 3,000-5,000 คน/วัน ซึ่งผู้ว่า ททท. คาดว่า ภายในปี 2566 นี้ ประเทศไทยจะต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย จำนวนไม่น้อยกว่า 1.5 ล้านคน ซึ่งเกินเป้าหมายของปี 2566

           ในขณะที่ผู้แทนภาคเอกชน จะร่วมกับ ททท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดงานส่งเสริมการขายกระตุ้นการเดินทาง ควบคู่กับการทำการตลาดเจาะกลุ่มคณะถ่ายทำ Bollywood MV และการจับคู่เมืองท่องเที่ยว (Sister Cities) นำเสนอเมืองรองของไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในตลาดอินเดีย ในขณะที่ ททท. จะได้หารือกับสายการบินพันธมิตรถึงโอกาสในการเปิดเส้นทางบินไปยังเมืองท่องเที่ยวศักยภาพเพื่อเจาะตลาดนักท่องเที่ยวพื้นที่ใหม่ๆ มากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นแล้วการส่งเสริมให้เกิดการเดินทางโดยเรือสำราญของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอินเดียที่เดินทางเข้าประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งกลุ่มเป้าหมายที่ ททท. จะทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อรักษาเสถียรภาพอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ให้บรรลุเป้าหมายท้าทายตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ด้วยรายได้อุตสาหกรรม 3.5 ล้านล้านบาท ภายในปี 2567 นี้

#AmazingThailand

#การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูถัมภ์ ขอเชิญผู้สนใจสนับสนุนการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ "ดอกแก้วกัลยา" ซึ่งทำขึ้นโดยผู้พิการ เพื่อให้มีรายได้ช่วยเหลือตนเอง

สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูถัมภ์ ขอเชิญผู้สนใจสนับสนุนการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ "ดอกแก้วกัลยา" ซึ่งทำขึ้นโดยผู้พิการ เพื่อให้มีรายได้ช่วยเหลือตนเอง

            อารยา อรุณานนท์ชัย ประธานคณะกรรมการฝ่ายจำหน่ายดอกแก้วกัลยา สมาคมสภาสังคม สงเคราะห์แห่งประเทศ ไทยในพระราชูปถัมภ์ จัดประชุมคณะกรรมการฯ เรื่องการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ "ดอกแก้วกัลยา" ที่ทำขึ้นโดยผู้พิการ ซึ่งสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานดอกแก้วกัลยาให้เป็นสัญลักษณ์ของคนพิการ  และมีพระดำรัสให้ฝึกอบรมการประดิษฐ์ดอกแก้วกัลยาให้คนพิการ เพื่อให้มีรายได้ มีอาชีพเลี้ยงตนเอง โดยมี รตท.ดร.มนัส โนนุช  พ.ต.อ.ดร.อัครพล บุณโยบัษฏัมภ์  วินา นิติตะวัน มนวิภา ประชัญคดี และหน่วยงานราชการ เอกชนมาร่วมประชุมมากมาย ณ ตึกนวมหาราช

 

           ผู้สนใจที่จะสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ดอกแก้วกัลยาในนามองค์กร หรือส่วนตัว สามารถสั่งซื้อได้ที่ สำนักส่งเสริมอาชีพและพัฒนาคนพิการ อาคาร สว. เลขที่ 100/41-42 ถนนเทิดดำริ เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 โทรศัพท์และโทรสาร 0-2241-2841 และ 0-2241-5125 หรือ ไลน์ gaew_galya

"ERGO ยกระดับการดูแล ส่งต่อความห่วงใย เปลี่ยนการเดินทางให้ง่ายขึ้นตลอดช่วง 7 วันอันตราย"

"ERGO ยกระดับการดูแล ส่งต่อความห่วงใย เปลี่ยนการเดินทางให้ง่ายขึ้นตลอดช่วง 7 วันอันตราย"      ERGO แบรนด์ประกันภัยชั้นนำจากเยอรมัน...