วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2565

งานมอบรางวัล CEO NUMBER AWARD 2022 ครั้งที่ 1 และการประกวด Miss CEO Number 1 International 2022

งานมอบรางวัล CEO NUMBER AWARD 2022  ครั้งที่ 1 และการประกวด Miss CEO Number 1 International 2022

               หม่อมหลวงปานวาด ศุขสวัสดิ์ ปนัดดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงอดิศรอุดมเดช เป็นประธานในการแถลงข่าวงานมอบรางวัล CEO NUMBER AWARD 2022   ครั้งที่ 1 รางวัลเชิดชู​เกียรติความสำเร็จแห่งปี 2022​ เพื่อการันตีคุณภาพ ศักยภาพ​ ธุรกิจ​และผลิตภัณฑ์ สินค้า ​คุณ​ภาพยอดเยี่ยม​ ปี​ 2022 และการประกวด Miss CEO Number1 International 2022 โดยมีนายโอมประกาศเกปาล ประธานองค์กรอนุรักษ์ศาสนาและวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นางสาวกัณฑ์ชิสา ปฐวีนันท์ ประธานชมรมรักษ์ถิ่นสยาม ดร.อมรรัตน์ สัญนุจิตต์ และ ดร.ริญลดา เพชรทะลุง ประธานชมรมส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจไทยสู่สากล พร้อมด้วยคณะกรรมการตัดสิน รวมทั้งผู้รับมอบรางวัล ร่วมแถลงข่าวด้วย ท่ามกลางสื่อมวลชนจำนวนมาก ณ ห้อง Kontent ชั้น 19 โรงแรม ใบหยกสกาย เมื่อวันศุกร์ ที่ 30 กันยายน 2565

                คุณกัณฑ์ชิสา แสงปฐวีนันนท์ กล่าวว่า การจัดงานมอบรางวัล CEO NUMBER AWARD 2022   ครั้งที่ 1 ในครั้งนี้ จัดโดยองค์กรอนุรักษ์ศาสนาและวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย และชมรมส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจไทยสู่สากล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมฉลองความสำเร็จ และยกย่องเกียรติแก่นักธุรกิจและ CEO ดีเด่นยอดเยี่ยมแห่งปี  ที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ มีความสามารถบริหารงานจัดการ ในการดำเนินธุรกิจได้เป็นอย่างดีเยี่ยม  "เพราะรางวัลที่ได้ไม่ใช่แค่รางวัล" แต่คือการได้ความเชื่อมั่น ยอมรับ และพัฒนาธุรกิจให้ก้าวไกลเดินหน้าสู่ระดับสากล เป็นการการันตีคุณภาพ ศักยภาพ​ ธุรกิจ​ และผลิตภัณฑ์สินค้า คุณ​ภาพยอดเยี่ยม​ ปี​ 2022  พร้อมกันนี้ก็ยังได้จัดให้มีการประกวด Miss CEO Number1 International 2022 ด้วย

                 การจัดงานมอบรางวัล CEO NUMBER AWARD 2022   ครั้งที่ 1 จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ ที่ 18 ธันวาคม 2565 เวลา 17:00 – 22:00 น. ณ โรงแรมใบหยกสกาย (Baiyoke Sky Hotel ) ถนนราชปรารภ แขวง ถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร โดยไดัรับเกียรติจากหม่อมหลวงปานวาด ศุขสวัสดิ์ ปนัดดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงอดิศรอุดมเดช เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล

          จึงขอเรียนผู้ประกอบการ​ ทั้งไทยและต่างประเทศ ในนามบุคคล, บริษัท,​ นักธุรกิจ, ห้างร้าน​, ผู้บริหารธุรกิจ​ กิจการการต่างๆ​ รวมถึงCEO​ เจ้าของแบรนด์​สินค้าและผลิตภัณฑ์​ เข้าร่วมส่งรายชื่อ​เสนอเพื่อพิจารณาเข้ารับรับรางวัลเชิดชู​เกียรติ​ รางวัลCEO NUMBER 1 2022 ครั้งที่ 1 ต้องการติดต่อหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถรับคำปรึกษาได้โดยตรงที่ Line : https://line.me/ti/p/pnjKT HYPERLINK "https://line.me/ti/p/pnjKT94_2P"94 HYPERLINK "https://line.me/ti/p/pnjKT94_2P"_ HYPERLINK "https://line.me/ti/p/pnjKT94_2P"2 HYPERLINK "https://line.me/ti/p/pnjKT94_2P"P หรือโทร: 098-825-0463 (คุณโอม) 

"พล.ต.อ.สุวัฒน์ "ส่งมอบหน้าที่ ผบ.ตร. มั่นใจ "พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์" จะเป็นผู้นำสีกากีคนใหม่ที่ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา

"พล.ต.อ.สุวัฒน์ "ส่งมอบหน้าที่ ผบ.ตร. มั่นใจ "พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์" จะเป็นผู้นำสีกากีคนใหม่ที่ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจ (ผบ.ตร.) ได้มีการลงนามรับส่งมอบหน้าที่ โดยมีการมอบธง และตราประจำตำแหน่งให้กับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. คนใหม่ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 30 กันยายน 25654

โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ใหม่ ได้ขึ้นแท่นรับการเคารพ และเดินตรวจแถวกองเกียรติยศ จากนั้นได้วางพานพุ่มถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 4 และพระบรมรูปหล่อ รัชกาลที่ 9 ก่อนเดินเข้าพิธีในห้องศรียานนท์ อาคาร 1 ตร. โดยมีข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบ.ตร. และ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เข้าร่วมในพิธีกันอย่างพร้อมเพียง

จากนั้นได้มีการทำพิธีลงนามในหนังสือส่งมอบหน้าที่ และมีการมอบธง และตราประจำตำแหน่ง ให้กับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ซึ่งจะเป็น ผบ.ตร. คนที่ 13 พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ฯ ยังได้กล่าวแสดงความยินดีกับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ​ โดยระบุว่า ผมขอแสดงความยินดีด้วยความจริงใจ ซึ่งท่านได้แสดงผลงานเป็นดีเด่นให้ประจักษ์ต่อสายตามาโดยตลอด จึงเชื่อมั่นว่า ผบ.ตร. ท่านใหม่ มั่นใจว่าจะนำองค์กรไปในทิศทางที่ดี สามารถปฏิบัติหน้าที่ ของ ผบ.ตร. และเป็นผู้นำได้อย่างสมศักดิ์ศรี และสัมฤทธิ์ผล เป็นประโยชน์แก่ทางราชการสืบไป

ด้าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ กล่าวว่า นับเป็นเกียรติยศและเป็นสิริมงคลอย่างสูงสุดแก่ชีวิต อย่างหาที่สุดมิได้ และรู้สึกนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นล้นพ้น ที่ทรงมีพระบรมราชองค์โองการโปรดเกล้า ฯ ให้ตนดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. และขอเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ทั้งจักปฏิบัติงานสนองพระราชปณิธาน ตามพระปฐมบรมราชโองการ และขอขอบคุณ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ฯ​ ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความวิริยะ อุตสาหะ ตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง ซึ่งท่านเป็นแรงผลักดันที่สำคัญ ที่ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตนขอให้คำมั่นสัญญาว่า จะทุ่มเทแรงกายแรงใจ ตลอดจนสติปัญญาในการปฎิบัติหน้าที่ อย่างสุดกำลังความสามารถ และจะปฎิบัติหน้าที่โดยยึดหลักนิติธรรม และคุณธรรม ตามครรลองแห่งกฎหมาย ระเบียบแบบแผน ของทางราชการ ตลอดจนขบนธรรมเนียมที่ดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและสังคมโดยรวม


จากนั้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ ฯ ได้เดินออกจากห้องศรียานนท์ และเดินลงบันได้ลงมายังหน้าอาคาร 1 ระหว่างทางมีตำรวจทั้งชายหญิงยืนตั้งแถวพร้อมกับถือดอกกุหลาบมอบให้กับ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นไปด้วยความตื้นตัน ก่อนที่จะขึ้นรถออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปอย่างสมเกียรติ

ด้าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ ฯ เป็นต้นแบบในหลายๆ ด้านของตน ซึ่งยากจะให้ใครเทียบได้ สมควรยึดถือเป็นแบบอย่าง และนำมาปรับใช้ให้เช้ากับวิธีคิด และแนวทางที่เป็นของตนให้ได้มากที่สุด และเชื่อว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ จะอยู่ในใจของตำรวจ และประชาชนทั้งประเทศตลอดไป




สำนักงาน ป.ป.ส. ประกาศผลรางวัล “BE SMART KIDS” ร้อง เล่น เต้น เติมฝัน ร่วมฝ่าฟัน ต้านภัยยาเสพติด

สำนักงาน ป.ป.ส. ประกาศผลรางวัล  “BE SMART KIDS” ร้อง เล่น เต้น เติมฝัน ร่วมฝ่าฟัน ต้านภัยยาเสพติด

         สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) จัดประกวด BE SMART KIDS ร้อง เล่น เต้น เติมฝัน ร่วมฝ่าฟัน ต้านภัยยาเสพติด ดึงเยาวชนรุ่นใหม่ อายุระหว่าง 7 - 12 ปี ทั่วประเทศ ที่มีใจรักในเสียงเพลง ร่วมทำกิจกรรมแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ผ่านคลิปรีวิวประกอบเพลง “เดินตามฝัน” แล้วอัพโหลดคลิปผ่านแพลตฟอร์ม Tik Tok ซึ่งได้เริ่มรับสมัครมาตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน และปิดรับผลงานไปเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2565 โดยมีผู้สนใจให้การตอบรับส่งผลงานเข้ามาร่วมประกวดอย่างมากมาย

        ผลการตัดสินจากคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิมากประสบการณ์ คัดเลือกทีมที่ได้รับรางวัล ทั้งหมด 3 ทีม ประกอบด้วย 

รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีมโรงเรียนมหาไถ่ศึกษาบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณและเกียรติบัตร

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีม  SS.NP Smart Kids จากโรงเรียนโสตศึกษา จังหวัดนครปฐม ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณและเกียรติบัตร โดยได้รับการสนับสนุนเงินรางวัลจาก บริษัท แอ็คเค้าน์ แชนเนล จำกัด (มหาชน) 

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีมโรงเรียนบ้านสุขฤทัย จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับเงินรางวัล 20,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณและเกียรติบัตร

     นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ดีใจและขอบคุณเยาวชนทุกทีมที่ให้ความสนใจและสมัครเข้าร่วมการประกวดในครั้งนี้ และขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัล ซึ่งผลงานของทุกทีมที่ส่งเข้าประกวด สำนักงาน ป.ป.ส. จะรวบรวมและเผยแพร่เพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์ไปยังเด็กและเยาวชน เพื่อร่วมกันสร้างการรับรู้ให้เยาวชนตระหนักถึงโทษพิษภัยยาเสพติด พร้อมหันมาให้ความสำคัญในการทำกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ร่วมกับครอบครัว กลุ่มเพื่อน ที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคม บนแพลตฟอร์มออนไลน์ ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ร่วมกันในการทำกิจกรรมที่แสดงออกถึงความสามารถ การปลูกฝังแนวคิดเชิงบวก การรู้จักคุณค่าในตนเอง และสร้างเครือข่ายคุณภาพเริ่มต้นจากครอบครัวอันจะนำไปสู่การช่วยลดโอกาสเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือพฤติกรรมเสี่ยงอื่นๆ ในอนาคตต่อไป



วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2565

บมจ.เออาร์ไอพี และ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มธ. มอบรางวัล THAILAND TOP CEO OF THE YEAR 2022 เชิดชูเกียรติผู้บริหารสูงสุดขององค์กร

บมจ.เออาร์ไอพี และ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มธ. มอบรางวัล THAILAND TOP CEO OF THE YEAR 2022 เชิดชูเกียรติผู้บริหารสูงสุดขององค์กร

นิตยสาร BUSINESS+ โดย บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ร่วมกับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดงานมอบรางวัล “THAILAND TOP CEO OF THE YEAR 2022”  รางวัลเพื่อยกย่องและเชิดชูเกียรติผู้บริหารสูงสุดขององค์กร โดยมุ่งหวังเพื่อถ่ายทอดความรู้และกลยุทธ์ความสำเร็จของผู้บริหารองค์กรที่ประสบความสำเร็จ เพื่อเสริมสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้บริหารรุ่นใหม่ โดยมีการมอบรางวัลรวม 20 รางวัล ทั้งใน ประเภทอุตสาหกรรม ภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และรางวัล Rising Star หรือผู้บริหารดาวรุ่ง โดยทุกรางวัลผ่านกระบวนการพิจารณาตัดสินผลรางวัลในประเภทต่าง ๆ อย่างรอบคอบ ภายในงานได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ นุรักษ์ มาประณีต เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยผู้บริหารสูงสุดขององค์กรเข้าร่วมรับรางวัลอย่างสมเกียรติ ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ

นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธานกรรมการ บมจ.เออาร์ไอพี กล่าวว่า “งาน THAILAND  TOP CEO OF THE YEAR 2022  จัดขึ้นเพื่อยกย่องและเชิดชูเกียรติผู้บริหารสูงสุดขององค์กร เพราะทุก ๆ ความสำเร็จ ล้วนมีหมากสำคัญเป็นตัวแปรเสมอ เปรียบเสมือนได้กับ “ขุน” หรือ “KING” และในทุกย่างก้าวของการบริหารย่อมเป็นไปตามวิสัยทัศน์ของการดำเนินธุรกิจที่มีความเป็นไปได้ ซึ่งรางวัล THAILAND TOP CEO OF THE YEAR 2022 จึงเป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจที่มอบให้แก่ผู้บริหารองค์กรที่มีวิสัยทัศน์ มีกลยุทธ์ธุรกิจการบริหารงานที่เป็นเลิศและโดดเด่นที่สุดในแต่ละอุตสาหกรรม”

รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า “นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีในฐานะสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศที่มุ่งสร้างผู้ประกอบการและนักบริหารธุรกิจที่มีคุณภาพ เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยในครั้งนี้ได้ร่วมกันคัดเลือก CEO ที่มีกลยุทธ์ในการบริหารองค์กรให้ประสบความสำเร็จ ผลการดำเนินงานดีเด่น ความเป็นเลิศในด้านการบริหารจัดการธุรกิจ ที่สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้บริหารรุ่นใหม่ สำหรับหลักเกณฑ์การพิจารณารางวัล พิจารณาทั้งกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ทักษะการบริหารที่เป็นเลิศ ผลประกอบการขององค์กร นวัตกรรมที่นำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม สร้างคุณค่าให้แก่ลูกค้า และสร้างคุณค่าให้แก่ผู้ถือหุ้น” 

ผศ.ดร.มณฑล สรไกรกิติกูล หัวหน้าสาขาวิชาการบริหารองค์กร การประกอบการ และทรัพยากรมนุษย์ และรักษาการผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า “โครงการ “THAILAND TOP CEO OF THE YEAR 2022” เป็นหนึ่งในความร่วมมือกับนิตยสาร BUSINESS+ ที่จะศึกษาวิจัยถึงแนวทางการบริหารงานของผู้บริหารระดับสูงขององค์กร เพื่อนำมาถอดบทเรียนความสำเร็จในมิติต่างๆ ของผู้บริหาร ทั้งทางด้านผลการดำเนินงาน การให้ความสำคัญกับ ลูกค้าและผู้ถือหุ้น ด้านพนักงาน สังคมชุมชน และสิ่งแวดล้อม ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญของแนวทาง ESG โดยทำการประเมินข้อมูลในแต่ละมิติ และคัดสรรผู้บริหารสูงสุดขององค์กรแห่งปี ในแต่ละอุตสาหกรรม และนำมาสู่งานมอบรางวัล “THAILAND TOP CEO OF THE YEAR 2022”  ในวันนี้นับว่าเป็นความสำเร็จของผู้บริหารที่ได้ทุ่มเทความรู้ ความสามารถเพื่อสร้างองค์กรให้มีความเข้มแข็ง สามารถแข่งขันกับองค์กรอื่นๆ ได้  และนำพาองค์กรไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน”

สำหรับการมอบรางวัล  “THAILAND TOP CEO OF THE YEAR 2022”  จัดมอบรางวัลให้กับผู้บริหารสูงสุดขององค์กรในแต่ละอุตสาหกรรม จำนวน 20 รางวัล ดังนี้ 

1. ประเภทอุตสาหกรรมการเงินการธนาคาร ได้แก่ คุณขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

2. ประเภทอุตสาหกรรมการก่อสร้าง และวัสดุก่อสร้าง ได้แก่ คุณณัฐวุฒิ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่    บริษัท ช.การช่าง จํากัด (มหาชน)

3. ประเภทอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและโรงแรม ได้แก่ คุณสุเวทย์ ธีรวชิรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ  บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน)

4. ประเภทอุตสาหกรรมการเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร ได้แก่ คุณวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน)

5. ประเภทอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ ได้แก่ ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด

6. ประเภทอุตสาหกรรมค้าปลีกค้าส่ง ได้แก่ คุณจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)

7. ประเภทอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล ได้แก่ คุณนพดล ปัญญาธิปัตย์ กรรมการผู้จัดการ  เดลล์ เทคโนโลยีส์ ประเทศไทย

8. ประเภทอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้แก่ คุณสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)

9. ประเภทอุตสาหกรรมบริการสุขภาพ ได้แก่ นายแพทย์ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม โรงพยาบาลสมิติเวชและโรงพยาบาลบีเอ็นเอช บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน)

10. ประเภทอุตสาหกรรมประกันชีวิต ได้แก่ คุณสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)

11. ประเภทอุตสาหกรรมประกันวินาศภัย ได้แก่ ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)

12. ประเภทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ ได้แก่ คุณชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่  บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)

13. ประเภทอุตสาหกรรมพลังงานและสาธารณูปโภค ได้แก่ คุณชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

14. ประเภทอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ ได้แก่ คุณพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานคณะกรรมการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด

15. ประเภทอุตสาหกรรมการสำรวจและผลิตทรัพยากรธรรมชาติ ได้แก่ คุณสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน)

16. ประเภทอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ คุณจรีพร จารุกรสกุล  ประธานคณะกรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

17. ประเภทภาครัฐ ได้แก่ คุณณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการ จังหวัดปทุมธานี

18. ประเภทรัฐวิสาหกิจ ได้แก่ คุณฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)

19. ประเภท Rising Star ได้แก่ ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) 

20. ประเภท Rising Star ได้แก่ คุณนัทธมน พิศาลกิจวนิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป (สุกี้ตี๋น้อย)

ศูนย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง รพ.นครธน ช่วยปลดล็อกอาการปวดหลัง กลับมาใช้ชีวิต อิสระได้อีกครั้ง

ศูนย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง รพ.นครธน 

ช่วยปลดล็อกอาการปวดหลัง กลับมาใช้ชีวิต

อิสระได้อีกครั้ง 

นวัตกรรม และเทคโนโลยีทางการแพทย์ช่วยให้ความเจ็บป่วยกลายเป็นเรื่องที่ไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไป การเกิดอาการปวดที่กระดูกสันหลัง ซึ่งในอดีตถือเป็นเรื่องใหญ่ ยิ่งถ้าเป็นหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทในรายที่รุนแรงถึงขนาดไม่สามารถเดิน หรือนั่ง แม้กระทั่งนอนได้ อาจจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดเปิดหลังเป็นแผลยาวเพื่อเลาะกล้ามเนื้อเข้าไปจัดการกับต้นตอของความเจ็บปวด ไม่เพียงผู้ป่วยต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวด หลังการผ่าตัดยังต้องพักรักษาตัวเป็นระยะเวลายาวนานกว่าร่างกายจะฟื้นกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

จากจุดเริ่มต้นที่ โรงพยาบาลนครธน มุ่งมั่นในการเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางชั้นนำในย่านพระรามที่ 2 ที่ได้รับการยอมรับตามมาตรฐานสากล จัดตั้งศูนย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง โดยความร่วมมือกับ บำรุงราษฎร์ เฮลท์ เน็ตเวิร์ก ให้บริการเฉพาะทางสำหรับผู้ที่มีปัญหาความผิดปกติทางกระดูกสันหลัง ไขสันหลัง และเส้นประสาท พร้อมให้คำปรึกษาเพื่อหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสม โดยทีมแพทย์เฉพาะทาง และทีมสหสาขา ด้วยการใช้เครื่องมือ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อผลการรักษา และคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วยเป็นสำคัญ พร้อมได้รับการรักษาในราคาที่สามารถเข้าถึงได้

รศ.ญาณเดช ทองสิมา ประธานกรรมการบริษัท โรงพยาบาลนครธน จำกัด  กล่าวว่า รูปแบบความร่วมมือระหว่าง โรงพยาบาลนครธน และบำรุงราษฎร์ เฮลท์ เน็ตเวิร์ก เป็นการนำองค์ความรู้ทางการแพทย์ บุคลากรที่มีประสบการณ์ โดยเฉพาะทีมแพทย์เฉพาะทางในการรักษาโรคกระดูกสันหลังมาร่วมมือกับโรงพยาบาลนครธน เพื่อร่วมกันจัดตั้งศูนย์กระดูกสันหลัง ณ โรงพยาบาลนครธน รวมทั้งเทคโนโลยีการรักษาโรคกระดูกสันหลังที่ทันสมัย เพื่อผลการรักษา และคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วยเป็นสำคัญ พร้อมได้รับการรักษาในราคาที่สามารถเข้าถึงได้


โรงพยาบาลนครธนเปิดให้บริการมากว่า 25 ปี ได้มีการพัฒนาเพื่อคุณภาพการรักษาและการบริการมาตลอด จากโรงพยาบาลรักษาโรคทั่วไปสู่การเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทาง เพื่อตอกย้ำเป้าหมายการเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางชั้นนำ    ในย่านพระรามที่ 2 ตามวิสัยทัศน์ที่จะมุ่งมั่นสู่ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ตามมาตรฐานสากล และให้การดูแลด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ (Humanized Healthcare)”

ด้าน นายสมศักดิ์ วิวัฒนสินชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บำรุงราษฎร์ เฮลท์ เน็ตเวิร์ก กล่าวว่า จากความร่วมมือในการจัดตั้ง ศูนย์กระดูกสันหลัง รพ.นครธน เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ทางบำรุงราษฎร์ได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับบุคลากรของโรงพยาบาลนครธน เพื่อยกระดับความรู้ความสามารถในการให้การรักษาตามแนวทางของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวนับเป็นรูปแบบใหม่ของธุรกิจการให้บริบาลทางการแพทย์ในประเทศไทย ส่งผลให้ผู้ป่วยของโรงพยาบาลนครธนสามารถเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพตามแนวทางของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ในราคาที่สอดคล้องกับกลุ่มคนไข้ของโรงพยาบาลนครธน ซึ่งตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมานั้น ถึงแม้ว่า ทางศูนย์ฯ ต้องเผชิญความท้าทายจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ปรากฏว่ามีผู้ป่วยเข้ามาใช้การบริบาลของศูนย์อย่างต่อเนื่อง และประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย ซึ่งมั่นใจว่าในสถานการณ์ปัจจุบันที่โควิด-19 คลี่คลายไปในทางที่ดี การให้บริการของศูนย์กระดูกสันหลัง โรงพยาบาลนครธน ก็จะยังได้รับความไว้วางใจจากผู้ป่วยมากขึ้นเป็นลำดับในการรักษาโรคเกี่ยวกับกระดูกสันหลังที่ครบวงจร ด้วยความชำนาญของทีมแพทย์เฉพาะทาง และด้วยผลลัพธ์ของการรักษาที่ดีที่สุด

นพ.วีระพันธ์ ควรทรงธรรม ผู้อำนวยการสถาบันกระดูกสันหลังบำรุงราษฎร์ และผู้อำนวยการศูนย์กระดูกสันหลัง โรงพยาบาลนครธน กล่าวว่า ศูนย์กระดูกสันหลัง โรงพยาบาลนครธน มีการวางแผนหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย โดยมีการประชุมทีมร่วมกับแพทย์เฉพาะทางอย่างน้อย 4 ท่านขึ้นไป เพื่อนำเอาความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์เฉพาะทางแต่ละสาขามาร่วมกันดูแลผู้ป่วย ฉะนั้นผู้ป่วยจึงไม่ต้องเสียเวลาหาข้อมูล หรือพบแพทย์หลายโรงพยาบาล เพราะที่นี่รวบรวมหลากหลายความคิดเห็นจากทีมแพทย์ไว้ให้ในที่เดียวกันแล้ว ถือเป็นความคิดเห็นที่ดีและเหมาะสมที่สุด โดยทีมแพทย์มีประสบการณ์ในการดูแลรักษาโรคกระดูกสันหลังกว่า 10 ปี รักษาผู้ป่วยมาแล้วกว่า 10,000 ราย ซึ่งวิธีการรักษาอาการปวดหลัง ปวดคอ มีตั้งแต่แค่ทานยา การทำกายภาพบำบัดเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง การฉีดยาระงับปวด ไปจนถึงการรักษาด้วยวิธีผ่าตัด ซึ่งในรายที่รักษาด้วยการทานยาแล้วไม่ดีขึ้น หรืออาการเป็นมากตั้งแต่แรก เมื่อประเมินดูแล้วว่าการรักษาด้วยยาอาจจะไม่ได้ผลเท่าที่ควร อาจจะพิจารณาให้รักษาด้วยการทำ Intervention ซึ่งเป็นการรักษาแบบโดยไม่ต้องผ่าตัด หรือการผ่าตัด โดยแพทย์ประจำศูนย์จะให้คำแนะนำ ให้การรักษา และให้ทางเลือกกับผู้ป่วยเป็นผู้ตัดสินใจ

ทั้งนี้ คนไข้ที่มีอาการปวดคอ ปวดหลัง บริเวณเอว ปวดร้าวลงแขนลงขา หรือมีอาการชาบริเวณแขนหรือขาข้างใดข้างหนึ่ง คนไข้เหล่านี้มีโอกาสเป็นอาการกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท สาเหตุโดยหลักเกิดจากการเสื่อมของกระดูกสันหลังและหมอนรองกระดูกสันหลัง ซึ่งเกิดขึ้นได้จากการมีอายุที่มากขึ้น การใช้งาน เช่น มีการยกของหนัก ก้มเงยบ่อย นั่งนานๆ หรือเล่นกีฬาบางประเภทที่ทำให้เกิดการกระแทกกับกระดูกสันหลัง ฉะนั้น หากมีอาการปวดเรื้อรังร่วมกับอาการชาหรือการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยด่วน

                การผ่าตัดกระดูกสันหลังผ่านกล้องเอ็นโดสโคป และไมโครสโคป เป็นเทคนิค และวิธีการผ่าตัดที่ทำให้คนไข้บอบช้ำน้อยที่สุด โดยกล้องเอ็นโดสโคปซึ่งมีลักษณะเป็นท่อขนาดเล็ก เส้นผ่านศูนย์กลางไม่ถึง 1 เซ็นติเมตร มีเลนส์ติดอยู่ที่ปลาย เปรียบเสมือนดวงตาของศัลยแพทย์ มีใยแก้วนำแสงเพื่อช่วยในการมองเห็น ทำให้ศัลยแพทย์สามารถมองเห็นความผิดปกติได้อย่างชัดเจนตรงจุด นอกจากนี้ ยังมี O-arm navigation เครื่องเอกซเรย์ 3 มิติ เป็นเครื่องมือที่เข้ามาช่วยเพิ่มความแม่นยำให้กับศัลยแพทย์ในการผ่าตัด

            คุณดาววิภา ฉายางาม  เล่าถึงอาการก่อนการรักษาว่า อาการปวดเริ่มจากปวดบริเวณสะโพกร้าวลงมาที่ขาขวาและปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ จนมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันในเรื่องของการเดิน หลังจากรักษาด้วยการทานยา และกายภาพบำบัดแล้วอาการไม่ดีขึ้น

กังวลว่าหากปล่อยทิ้งไว้นานกว่านี้อาจจะทำให้ถึงขั้นเดินไม่ได้ ซึ่งหลังจากการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดด้วยกล้องเอ็นโดสโคป ที่ศูนย์กระดูกสันหลัง โรงพยาบาลนครธน  ทำให้สามารถกลับมาเดินได้อย่างปกติ ไม่กลับมาปวดซ้ำอีก ใครที่มีอาการปวดหลังร้าวลงขา หรือปวดสะโพก มีอาการชา อ่อนแรงร่วมด้วย อย่าปล่อยทิ้งไว้ อยากให้รีบมาปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาค่ะ

คุณไพลิน สุรนาถกิตติธร อีกหนึ่งผู้รับบริการที่ศูนย์กระดูกสันหลัง โรงพยาบาลนครธน ที่มีความกังวลกลัวการผ่าตัดเป็นอย่างมาก เนื่องจากเคยมีประสบการณ์ในการผ่าตัดรักษาอาการปวดหลังด้วยวิธีอื่นมาก่อน

ประสบการณ์ครั้งนั้นทำให้รู้สึกกลัวการผ่าตัดเพราะเจ็บปวด และใช้เวลาพักฟื้นนาน คุณหมอศูนย์กระดูกสันหลัง โรงพยาบาลนครธน ได้ช่วยหาแนวทางการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดผ่านกล้องเอ็นโดสโคป ที่เป็นการผ่าตัดแผลเล็ก ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วหลังการผ่าตัด ทำให้หมดกังวลใจทันที สำหรับการผ่าตัดครั้งนี้ เพียง 1 วันหลังการผ่าตัด ก็สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้เหมือนเดิม


คุณรชานนท์ เอี่ยมละออ เล่าถึงประสบการณ์เข้ารับการรักษาปวดคอเรื้อรัง เนื่องจากทำงานเป็นนักบัญชี ซึ่งต้องนั่งทำงานในท่าเดิมเป็นเวลานาน จึงมีอาการปวดคอ ร้าวลงแขน ลงมา บ่า และไหล่ จุดเปลี่ยนที่ทำให้ต้องรีบมารักษาอย่างจริงจัง เนื่องจากเกิดเหตุการณ์สำลักน้ำ แล้วเกิดอาการเหมือนไฟฟ้าช็อตตั้งแต่ศีรษะลงมาถึงขา ทำให้ร่างกายรวมทั้งแขนไม่มีแรง แม้แต่การเขียนหนังสือก็เป็นเรื่องยาก เมื่อเข้ามาปรึกษาแพทย์ที่ศูนย์กระดูกสันหลัง โรงพยาบาลนครธน แพทย์อธิบายอย่างละเอียดถึงอาการว่าเกิดจากปัญหาใด การรักษาควรจะไปในทิศทางไหน การรักษาด้วยการผ่าตัดกระดูกคอผ่านกล้องเอ็นโดสโคปว่าใช้ระยะเวลาสั้น แผลเล็ก เจ็บน้อย จึงเกิดความมั่นใจ และตัดสินใจรักษา 

หลังจากเข้ารับการผ่าตัดไม่นานก็สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนปกติ เขียนหนังสือได้ ทำงานบ้านได้ ทั้งยังสามารถเล่นงัดข้อกับลูกได้เหมือนเมื่อก่อน

สำหรับผู้ที่กำลังมีปัญหาโรคกระดูกสันหลัง หากมีอาการ เช่น ปวดคอ หรือ ปวดหลัง เรื้อรัง ปวดคอร้าวลงแขน ปวดหลังร้าวลงขา หรือ มีอาการแขนชา มือชา หรือ ขาชา ร่วมด้วย ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทาง อย่าปล่อยทิ้งไว้ เพื่อหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสม และดีที่สุด ทำให้กลับมามีคุณภาพชีวิตได้อย่างอิสระอีกครั้ง.สอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่ โรงพยาบาลนครธน

 

 

 

 

 

 

วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2565

สยามสแควร์จัดเต็มสายกีฬาในงาน “Sport on Street” เปลี่ยนสยามเป็นสนามกีฬาสุดมันส์

สยามสแควร์จัดเต็มสายกีฬาในงาน “Sport on Street” เปลี่ยนสยามเป็นสนามกีฬาสุดมันส์

              สยามสแควร์ชวนมามันส์กับกีฬาหลากหลายประเภททั้ง มวยไทย บาสเก็ตบอล ฟุตซอล วัวกระทิง Class Dance  Strider Racing ชวนเชียร์ฟุตบอล J.League พร้อมสนุกสนานกับความบันเทิง Street Performance หลากหลาย ระหว่าง วันที่ 30  กันยายน – 2 ตุลาคม 2565 เต็มพื้นที่ Siam Square Walking Street และ ลิโด้คอนเน็ค

              สยามสแควร์ จัดงาน Sport on Street เปลี่ยนสยามให้เป็นสนามกีฬาสุดฮิตที่ใครๆ ก็เล่นได้ เพื่อส่งเสริมด้านการออกกำลังกาย โดยภายในงานพบกับครั้งแรกที่ยกเวทีมวยลุมพินีมาไว้ที่ Siam Square Walking Street พร้อมให้ประลองฝีมือ รวมทั้งจะได้พบกับนักมวยชื่อดังที่จะมาสร้างความตื่นเต้นให้วัยรุ่นสยาม อาทิ โชว์มวยจากค่ายน้องตุ้ม และพบกับนักมวยจาก Street Fight  มากถึง 20 คู่

             พร้อมกันนี้ยังมีสนามกีฬาอื่นๆ  อาทิ บาสเก็ตบอล ที่จะได้ฝึกทักษะการเล่นบาสกับผู้ฝึกสอนระดับมืออาชีพและสุดพิเศษกับการเปิดตัวสนามบาสเกตบอลระดับนานาชาติ พร้อม ชมแมตช์การแข่งขันบาสเก็ตบอล 30N3 แบบใกล้ชิดติดขอบสนาม ระหว่างทีมรวมดาราและทีมนักกีฬา 3BL /  Strider Racing สนุกสุดมันส์กับการแข่งขันจักรยานฝึกทรงตัวสำหรับเด็ก ในสนามกลางแจ้ง / ฟุตซอล ออกกำลังแข้งด้วยกิจกรรมมากมาย เช่น เดาะบอล เลี้ยงบอลผ่านกรวย โหม่งบอลแรลลี่ / Class Dance ขยับร่ายกาย ให้ฟิตแอนด์เฟิร์ม กับBody Combat , Body Balance และ SH'BAM / สัมผัสสนามกีฬาวัวกระทิงจำลองที่สามารถทดสอบความแข็งแรงของกล้ามเนื้อกับกิจกรรมขี่วัวกระทิง / ทดลองความสนุกไปกับสนาม โกคาร์ท จักรยาน สกู๊ตเตอร์ ร่วมด้วยเอาใจคอฟุตบอลด้วย J.League Asia Challenge  ชวนเชียร์ฟุตบอล J.League ศึกไทยดาร์บี้ ระหว่างฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโล กับ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ณ ลิโด้คอนเน็ค

              และพิเศษสุดเสริมความมันส์กับความสนุกสนานของ Street Performance ที่ช่วยให้การเล่นกีฬามีสีสันและความสนุกสนานเร้าใจด้วยการเปิดแผ่นของ DJ ดัง นำโดย DJ.Jing , DJ.Shao-Funk และ HI8H SUGARR/ การเต้น Coverdance  B-Boyกับ ทีม Coverdance B-Boy อาทิ ทีม ss mirror และ Suksiri Dance Studio /การแสดงดนตรีจากวง S.D.F,NOS, DrJing, BELLA,The 38 Years ago และ ดนตรี MUSIC ON STREET อีกมากมาย  ระหว่างวันที่  30  กันยายน – 2 ตุลาคม 2565 นี้ ณ Siam Square Walking Street ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/SiamSquareOfficial

"ERGO ยกระดับการดูแล ส่งต่อความห่วงใย เปลี่ยนการเดินทางให้ง่ายขึ้นตลอดช่วง 7 วันอันตราย"

"ERGO ยกระดับการดูแล ส่งต่อความห่วงใย เปลี่ยนการเดินทางให้ง่ายขึ้นตลอดช่วง 7 วันอันตราย"      ERGO แบรนด์ประกันภัยชั้นนำจากเยอรมัน...