สหพันธ์เกษตรกรแห่งประเทศไทย (สกท.) วอน ครม. เร่งรัดอนุมัติแก้ปัญหาฟื้นฟูหนี้สินเกษตรกร
จากการที่กลุ่มเกษตรกรได้เคลื่อนไหวเรียกร้องและประสานงานมาอย่างยาวนาน ในที่สุดก็ได้รับสัญญาฉบับจริงจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ให้กลุ่มเกษตรกรเริ่มต้นทำสัญญาและดำเนินการตามขั้นตอน โดยการแก้ไขโครงสร้างหนี้นี้จะช่วยลดภาระการรับผิดชอบหนี้สินของเกษตรกรให้เหลือเพียงครึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลือและดอกเบี้ยจะได้รับการชดเชยจากรัฐบาลตามมติ ครม.
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ที่หน้ากระทรวงการคลัง นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองในรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร พร้อมด้วยคณะทำงาน ได้เดินทางมาพูดคุยกับทางสหพันธ์เกษตรกรแห่งประเทศไทย (สกท.) โดยมี นายยศวัฒน์ ชัยวัฒนสิริกุล ที่ปรึกษาใหญ่ สกท. นายเทอดรัฐ นาหัวนิล ผู้แทนเกษตรกรภาคอีสาน และคณะกรรมการ สกท. ท่ามกลางเกษตรกรที่มาร่วมเคลื่อนไหว ถึงความคืบหน้าในการเคลื่อนไหวเรียกร้องในโครงการแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกรในครั้งนี้
นายยศวัฒน์ ชัยวัฒนสิริกุล ที่ปรึกษาใหญ่ สกท. เปิดเผยถึงความคืบหน้าล่าสุดในโครงการแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกรที่ได้ดำเนินการร่วมกับ 4 ธนาคารของรัฐตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 และ 14 มีนาคม 2566 โดยโครงการนี้มีรายชื่อเกษตรกรที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการถึง 50,621 ราย เพิ่มเติม 16,702 ราย อย่างไรก็ตามในขั้นตอนล่าสุดพบว่า เกษตรกรยังใช้สิทธิ์ไม่ครบทั้งหมด ทำให้คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรสามารถพิจารณาเพิ่มเติมรายชื่อเกษตรกรเข้าร่วมโครงการแทนผู้ที่ไม่ได้ใช้สิทธิ์ได้ โดยยังคงงบประมาณการช่วยเหลือไว้ที่ 15,000 ล้านบาท ตามมติเดิม
ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนทั้งหมดของกองทุนฟื้นฟูฯ ได้ดำเนินการครบถ้วนตามกฎหมายและอยู่ในกระบวนการนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งนี้คาดหวังว่าในวันพรุ่งนี้ ครม. จะเห็นชอบในหลักการให้สามารถดำเนินการตามข้อเสนอเดิม เพื่อช่วยเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาหนี้สินนี้ได้ทันท่วงที
ด้าน นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวว่า การพิจารณาขั้นตอนต่างๆ นั้นเป็นกระบวนการปกติของทางรัฐบาล และทางสำนักงานเลขาธิการ ครม. กำลังรอเพียงการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีก 5 หน่วยงาน ซึ่งเมื่อหน่วยงานทั้งหมดแสดงความเห็นชอบแล้ว โครงการจะสามารถเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ได้ทันที และไม่มีการปรับเปลี่ยนตัวเลขงบประมาณเพิ่มเติม และกรอบวงเงินยังคงเดิมที่จำนวนกว่า 15,000 ล้านบาท ดังนั้นเมื่อเอกสารทางเทคนิคเสร็จสิ้นเรียบร้อย โครงการจะได้รับการอนุมัติทันที
ด้านนายเทอดรัฐ นาหัวนิล ผู้แทนเกษตรกรภาคอีสาน กล่าวว่า โครงการแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกรในครั้งนี้ ทาง สกท. ได้รับสัญญาฉบับจริงจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ให้กลุ่มเกษตรกรเริ่มต้นทำสัญญาและดำเนินการตามขั้นตอน โดยการแก้ไขโครงสร้างหนี้นี้จะช่วยลดภาระการรับผิดชอบหนี้สินของเกษตรกรให้เหลือเพียงครึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลือและดอกเบี้ยจะได้รับการชดเชยจากรัฐบาลตามมติ ครม. โดยทาง สกุล. ก็ยังคงเร่งดำเนินการผลักดันให้กระบวนการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.โดยเร็วที่สุด เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศสามารถใช้สิทธิ์และรับความช่วยเหลือทันท่วงทีในระยะเวลาที่กำหนด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น