ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ ร่วมกับราชบัณฑิตยสภา จัดปาฐกถาและเสวนา “จริยธรรมและธรรมาภิบาลเพื่อความยั่งยืนในสังคมไทย”

คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ ร่วมกับราชบัณฑิตยสภา

จัดปาฐกถาและเสวนา “จริยธรรมและธรรมาภิบาลเพื่อความยั่งยืนในสังคมไทย”

     คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสำนักธรรมศาสตร์และการเมือง ราชบัณฑิตยสภา จัดการปาฐกถาพิเศษเรื่อง “จริยธรรมและธรรมาภิบาลเพื่อความยั่งยืนในสังคมไทย” เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับจริยธรรมและธรรมาภิบาลในบริบทสังคมไทยยุคใหม่ ตลอดจนแลกเปลี่ยนประสบการณ์และข้อเสนอเชิงนโยบายจากผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญในภาคส่วนต่างๆ ทั้งจากภาครัฐ ภาคการศึกษา และภาคธุรกิจเอกชน โดยมี ศ. (พิเศษ) ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย นายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวเปิดงาน รศ.ดร.ธารทัศน์ โมกขมรรคกุล คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ กล่าวต้อนรับ และ ศ.ดร.วรเดช จันทรศร ประธานสำนักธรรมศาสตร์ และการเมือง ราชบัณฑิตยสภา กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงาน ณ CBS Cinema ชั้น 3 อาคารไชยยศสมบัติ 1 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม 2568 

     โดยภายในงานมีการปาฐกถาพิเศษโดยผู้ทรงคุณวุฒิในหัวข้อต่างๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่  “วัฒนธรรมของพลเมืองไทยในสังคมยุคใหม่” โดย ศ.เกียรติคุณ นพ.สุรพล อิสรไกรศีล นายกราชบัณฑิตยสภา “จริยธรรมและธรรมาภิบาลในการบริหารประเทศ : อดีต ปัจจุบัน และอนาคต” โดย ศ. (พิเศษ) นรนิติ เศรษฐบุตร ราชบัณฑิต สำนักธรรมศาสตร์และการเมือง ราชบัณฑิตยสภา และ “บทบาทและหน้าที่ของมหาวิทยาลัยในการสร้างคุณธรรมและจริยธรรมให้แก่เยาวชนของชาติ” โดย ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาฯ

      ปิดท้ายด้วยการเสวนาในหัวข้อ “การส่งเสริมให้องค์การมีจริยธรรมและธรรมาภิบาลเพื่อความยั่งยืน” โดย ศ.ดร.วรเดช จันทรศร ประธานสำนักธรรมศาสตร์ และการเมือง ราชบัณฑิตยสภา คุณถนอมวงศ์ แต้ไพสิฐพงษ์ กรรมการบริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) รศ.ดร.ธารทัศน์ โมกขมรรคกุล คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ ศ.กิตติคุณ ดร.กุณฑลี รื่นรมย์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ ภาคีสมาชิกสำนักธรรมศาสตร์และการเมือง ราชบัณฑิตยสภา


     ศ.เกียรติคุณ นพ.สุรพล อิสรไกรศีล นายกราชบัณฑิตยสภา กล่าวถึงบทเรียนจากประวัติศาสตร์และตัวอย่างจากต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่นและเยอรมนี ซึ่งประสบความสำเร็จจากการปลูกฝังวินัยและจิตสาธารณะ จึงเสนอว่าประเทศไทยควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณธรรมของประชาชนควบคู่กับระบบการปกครอง เพื่อให้ประชาธิปไตยไทยก้าวหน้าอย่างแท้จริง พร้อมชี้ว่าคนกับระบบต้องพัฒนาไปด้วยกัน โดยการสร้างพลเมืองที่มีสำนึกความดี ความรับผิดชอบ และจิตใจเพื่อส่วนรวม


ซึ่งหากต้องการเปลี่ยนประเทศ ต้องเริ่มจากการเปลี่ยนจิตสำนึกของประชาชนก่อน โดยเสนอแนวทางขับเคลื่อนวัฒนธรรมพลเมืองใน 3 ระยะ ได้แก่

- ระยะเร่งด่วน สร้างกระแสสังคม ส่งเสริมต้นแบบความดีในภาครัฐ เอกชน และเยาวชน

- ระยะกลาง  บรรจุหลักสูตรวัฒนธรรมพลเมืองในทุกระดับการศึกษา ปรับระบบคุณธรรมในราชการ และส่งเสริมธรรมาภิบาลในท้องถิ่น

- ระยะยาว พัฒนาดีเอ็นเอคนไทยให้มีทั้งความเก่งและความดี ปลูกฝังคุณธรรมตั้งแต่ครอบครัวจนถึงชุมชน


     ศ.เกียรติคุณ นพ.สุรพล กล่าวทิ้งท้ายว่า “การเปลี่ยนแปลงประเทศไม่จำเป็นต้องพึ่งเพียงกฎหมายหรือองค์กรตรวจสอบ หากทุกคนเริ่มจากการเป็นคนดี มีวัฒนธรรมพลเมือง ประเทศไทยจะเป็นสังคมที่สงบสุขและยั่งยืนด้วยใจของประชาชนเอง”

     ศ. (พิเศษ) นรนิติ เศรษฐบุตร ราชบัณฑิต สำนักธรรมศาสตร์และการเมือง ราชบัณฑิตยสภา กล่าวว่า “ในสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์ พระมหากษัตริย์ทรงยึดมั่นในทศพิธราชธรรม 10 ประการ และจักรวรรดิวัตร 12 ประการในการปกครอง เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง รัฐธรรมนูญเป็นผลผลิตใหม่ ผู้ปกครองได้อำนาจจากประชาชนผ่านการเลือกตั้ง อำนาจสูงสุดจึงเป็นของปวงชนชาวไทย การนำคำว่าจริยธรรมเข้ามาบรรจุในรัฐธรรมนูญเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2540 ในมาตรา 77 เพื่อเตือนสติผู้มีอำนาจ นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญปี 2540 ยังได้ริเริ่มให้มีองค์กรอิสระ ขึ้นมาเพื่อคานอำนาจรัฐบาล”

“ปัจจุบัน บทบาทของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ได้เขียนกำหนดเกี่ยวกับจริยธรรมไว้หลายแห่ง โดยเฉพาะมาตรา 160 วรรค 5 ซึ่งระบุว่ารัฐมนตรีต้องไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง มาตรานี้เป็นมาตราสำคัญที่ถูกใช้ในการลงโทษทางการเมืองในช่วงปีที่ผ่านมา ในอนาคตหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะต้องคงไว้ซึ่งเรื่องจริยธรรม เนื่องจากรัฐธรรมนูญเปรียบเสมือนคัมภีร์แผ่นดินใหม่ที่กำหนดอำนาจและวิธีการจัดการกับผู้มีอำนาจภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง และหากผู้มีอำนาจจะแก้ไขเอาบทบัญญัติเรื่องจริยธรรมออกไปย่อมเป็นเรื่องยากมาก”

     ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาฯ ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ปาฐกถาเรื่อง “บทบาทและหน้าที่ของมหาวิทยาลัยในการสร้างคุณธรรมและจริยธรรมให้แก่เยาวชนของชาติ” โดยกล่าวว่าเรื่องของเยาวชนกับจริยธรรมเป็นคำถามที่เกิดขึ้นหลายปีที่ผ่านมาถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น บทบาทของมหาวิทยาลัยไม่ได้เป็นเรื่องของการศึกษาเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของการพัฒนาคุณภาพชีวิตและผลิตบัณฑิตเข้าสู่ตลาดแรงงานและองค์กร หลักจริยธรรมตามความหมายของราชบัณฑิตยสถานหมายถึงการศึกษาว่าการกระทำอย่างไรถือว่าเป็นความประพฤติที่ถูกหรือผิด จริยธรรมคือความประพฤติที่ดีงาม ความประพฤติอันพึงปฏิบัติต่อตนเอง ต่อผู้อื่น และต่อสังคม เพื่อให้เกิดความดีงามความถูกต้องและนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง จุฬาฯ มีจริยธรรมสำหรับนิสิต ได้แก่ ตั้งใจพัฒนาตนเอง ให้เกียรติคณาจารย์ ผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัย ปฏิบัติตนต่อผู้อื่นอย่างเป็นกัลยาณมิตร มีระเบียบวินัย ไม่ประพฤติตนอันเป็นเหตุให้เกิดความเสื่อมเสีย ในขณะเดียวกันจุฬาฯ ก็มีประมวลจริยธรรมสำหรับคณาจารย์ด้วย

     ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาฯ กล่าวต่อไปว่าวิสัยทัศน์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญในเรื่อง philanthropic spirit (การมีจิตใจแห่งการเป็นผู้ให้) บทบาทของมหาวิทยาลัยไม่เพียงให้การศึกษาเท่านั้น แต่มีบทบาทในการเปลี่ยนชีวิต การให้การศึกษาและผลิตบัณฑิตโดยไม่ครอบคลุมในเรื่องจริยธรรมคือการสร้างอาชญากรทางสังคม การนึกถึงผู้อื่นให้มากขึ้น ความรักความห่วงใยเป็นบ่อเกิดของจริยธรรม ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตส่วนใหญ่โดยใช้ออนไลน์ ดังนั้นเรื่อง Digital Ethics หรือจริยธรรมในโลกดิจิทัลจึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิต จุฬาฯ ได้พัฒนา AI ซึ่งมีชื่อว่า ChulaGENIE ซึ่งแตกต่างจาก ChatGPT คนที่สร้างเทคโนโลยีและแอปพลิเคชันต้องมี Ethical Mind ซึ่งจะทำให้เกิด Digital Ethics

     จุฬาฯ มุ่งเน้นการยกย่องเชิดชูทางด้านจริยธรรม ส่งเสริมให้คนทำความดี นอกจากจริยธรรมสำหรับนิสิตแล้ว จุฬาฯ ยังให้ความสำคัญกับจริยธรรมสำหรับคณาจารย์อีกด้วย ได้แก่ การรับผิดชอบต่อการสอนและการเรียนรู้ ปฏิบัติต่อนิสิตด้วยความเป็นธรรมและเมตตา และแสดงความคิดเห็นทางวิชาการด้วยความซื่อสัตย์ โดยมีกิจกรรมการพัฒนาคณาจารย์อย่างต่อเนื่อง

“ความรักความห่วงใยเป็นพื้นฐานของการสร้างจริยธรรม ในช่วงเวลาที่ผ่านมา จุฬาฯ ได้อุทิศพื้นที่สยามสแควร์ด้วยการปิดถนนให้คนพิการและเกษตรกรได้ขายของฟรี ผู้ใช้แรงงานได้ตรวจสุขภาพฟรีและได้รับความรู้ทางด้านภาษา"

     เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ทั้ง 17 ข้อ เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งที่เหลืออยู่ในอนาคตคือความยั่งยืนทางจริยธรรม การสร้าง SDGs ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างคณะและหน่วยงานต่าง ๆ ต้องเกิดจากคุณธรรมและจริยธรรมที่เกิดขึ้นจากใจ เป็นความรักที่มีต่อผู้คนและการทำงานเพื่อประชาชน สิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นในจุฬาฯ คือ SDGs ข้อ 18 คือ philanthropic spirit  

     นอกจากนี้ในส่วนของ 10 ทักษะจำเป็นแห่งอนาคต (Future of Jobs 2025) ซึ่งจุฬาฯ เป็นตัวแทนหนึ่งเดียวในประเทศไทยร่วมกับ World Economic Forum ในการเสนอแนวทางเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานในอนาคต ทักษะที่สำคัญที่สุดคือทักษะข้อ 7 Empathy and active listening  (การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่งทุกอย่าง ทักษะที่ต้องการสำหรับเยาวชนในวันนี้คือ Emotional Intelligence หรือความฉลาดทางปัญญา

      จากนั้นเป็นการปาฐกถาพิเศษโดยผู้ทรงคุณวุฒิในหัวข้อต่าง ๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ “วัฒนธรรมของพลเมืองไทยในสังคมยุคใหม่” โดย ศ.เกียรติคุณ นพ.สุรพล อิสรไกรศีล นายกราชบัณฑิตยสภา การปาฐกถาเรื่อง “จริยธรรมและธรรมาภิบาลในการบริหารประเทศ : อดีต ปัจจุบัน และอนาคต” โดย ศ. (พิเศษ) นรนิติ เศรษฐบุตร ราชบัณฑิต สำนักธรรมศาสตร์และการเมือง ราชบัณฑิตยสภา และ “บทบาทและหน้าที่ของมหาวิทยาลัยในการสร้างคุณธรรมและจริยธรรมให้แก่เยาวชนของชาติ” โดย ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาฯ ดำเนินรายการโดย รศ.ดร.คณิสร์ แสงโชติ รองคณบดีฝ่ายวิจัย คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ

      ปิดท้ายด้วยการเสวนาในหัวข้อ “การส่งเสริมให้องค์การมีจริยธรรมและธรรมาภิบาลเพื่อความยั่งยืน” โดย ศ.ดร.วรเดช จันทรศร ประธานสำนักธรรมศาสตร์ และการเมือง ราชบัณฑิตยสภา คุณถนอมวงศ์ แต้ไพสิฐพงษ์ กรรมการบริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) รศ.ดร.ธารทัศน์ โมกขมรรคกุล คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ ศ.กิตติคุณ ดร.กุณฑลี รื่นรมย์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ ภาคีสมาชิกสำนักธรรมศาสตร์และการเมือง ราชบัณฑิตยสภา

     ศ. (พิเศษ) นรนิติ เศรษฐบุตร ราชบัณฑิต สำนักธรรมศาสตร์และการเมือง ราชบัณฑิตยสภา กล่าวว่า “ในสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์ พระมหากษัตริย์ทรงยึดมั่นในทศพิธราชธรรม 10 ประการ และจักรวรรดิวัตร 12 ประการในการปกครอง เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง รัฐธรรมนูญเป็นผลผลิตใหม่ ผู้ปกครองได้อำนาจจากประชาชนผ่านการเลือกตั้ง อำนาจสูงสุดจึงเป็นของปวงชนชาวไทย การนำคำว่าจริยธรรมเข้ามาบรรจุในรัฐธรรมนูญเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2540 ในมาตรา 77 เพื่อเตือนสติผู้มีอำนาจ นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญปี 2540 ยังได้ริเริ่มให้มีองค์กรอิสระขึ้นมาเพื่อคานอำนาจรัฐบาล”

“ปัจจุบันบทบาทของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ได้เขียนกำหนดเกี่ยวกับจริยธรรมไว้หลายแห่ง โดยเฉพาะมาตรา 160 วรรค 5 ซึ่งระบุว่ารัฐมนตรีต้องไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง มาตรานี้เป็นมาตราสำคัญที่ถูกใช้ในการลงโทษทางการเมืองในช่วงปีที่ผ่านมา ในอนาคตหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะต้องคงไว้ซึ่งเรื่องจริยธรรม เนื่องจากรัฐธรรมนูญเปรียบเสมือนคัมภีร์แผ่นดินใหม่ที่กำหนดอำนาจและวิธีการจัดการกับผู้มีอำนาจภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง และหากผู้มีอำนาจจะแก้ไขเอาบทบัญญัติเรื่องจริยธรรมออกไปย่อมเป็นเรื่องยากมาก” 

     ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาฯ ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ปาฐกถาเรื่อง “บทบาทและหน้าที่ของมหาวิทยาลัยในการสร้างคุณธรรมและจริยธรรมให้แก่เยาวชนของชาติ” โดยกล่าวถึงเยาวชนกับจริยธรรมว่าเป็นคำถามที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลักจริยธรรมตามความหมายของราชบัณฑิตยสถานหมายถึงการศึกษาว่าการกระทำอย่างไรถือว่าเป็นความประพฤติที่ถูกหรือผิด จริยธรรมคือความประพฤติที่ดีงาม ความประพฤติอันพึงปฏิบัติต่อตนเอง ต่อผู้อื่น และต่อสังคม เพื่อให้เกิดความดีงามความถูกต้องและนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง จุฬาฯ มีจริยธรรมสำหรับนิสิต ได้แก่ การตั้งใจพัฒนาตนเอง ให้เกียรติคณาจารย์ ผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัย ปฏิบัติตนต่อผู้อื่นอย่างเป็นกัลยาณมิตร มีระเบียบวินัย ไม่ประพฤติตนอันเป็นเหตุให้เกิดความเสื่อมเสีย

     อธิการบดีจุฬาฯ กล่าวต่อไปว่าวิสัยทัศน์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญในเรื่อง philanthropic spirit (การมีจิตใจแห่งการเป็นผู้ให้) บทบาทของมหาวิทยาลัยไม่เพียงให้การศึกษาเท่านั้น แต่มีบทบาทในการเปลี่ยนชีวิต การให้การศึกษาและผลิตบัณฑิตโดยไม่ครอบคลุมในเรื่องจริยธรรมคือการสร้างอาชญากรทางสังคม การนึกถึงผู้อื่นให้มากขึ้น ความรักความห่วงใยเป็นบ่อเกิดของจริยธรรม ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตส่วนใหญ่โดยใช้ออนไลน์ ดังนั้นเรื่อง Digital Ethics หรือจริยธรรมในโลกดิจิทัลจึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้พัฒนา AI ซึ่งมีชื่อว่า ChulaGENIE ซึ่งแตกต่างจาก ChatGPT คนที่สร้างเทคโนโลยีและแอปพลิเคชันต้องมี Ethical Mind ซึ่งจะทำให้เกิด Digital Ethics

     ศ.ดร.วิเลิศกล่าวเพิ่มเติมว่าจุฬาฯ มุ่งเน้นการยกย่องเชิดชูทางด้านจริยธรรม ส่งเสริมให้คนทำความดี นอกจากจริยธรรมสำหรับนิสิตแล้ว จุฬาฯ ยังให้ความสำคัญกับจริยธรรมสำหรับคณาจารย์อีกด้วย ได้แก่ การรับผิดชอบต่อการสอนและการเรียนรู้ ปฏิบัติต่อนิสิตด้วยความเป็นธรรมและเมตตา และแสดงความคิดเห็นทางวิชาการด้วยความซื่อสัตย์ โดยมีกิจกรรมการพัฒนาคณาจารย์อย่างต่อเนื่อง

“ความรักความห่วงใยเป็นพื้นฐานของการสร้างจริยธรรม ในช่วงเวลาที่ผ่านมา จุฬาฯ ได้อุทิศพื้นที่สยามสแควร์ด้วยการปิดถนนให้คนพิการและเกษตรกรได้ขายของฟรี ผู้ใช้แรงงานได้ตรวจสุขภาพฟรีและได้รับความรู้ทางด้านภาษา

     การสร้างเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ทั้ง 17 ข้อ เป็นความร่วมมือระหว่างคณะและหน่วยงานต่าง ๆ ต้องเกิดจากคุณธรรมและจริยธรรมที่เกิดขึ้นจากใจ เป็นความรักที่มีต่อผู้คนและการทำงานเพื่อประชาชน สิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นในจุฬาฯ คือ SDGs ข้อ 18 คือ philanthropic spirit ในส่วนของ 10 ทักษะจำเป็นแห่งอนาคต (Future of Jobs 2025) ซึ่งจุฬาฯ เป็นตัวแทนหนึ่งเดียวในประเทศไทยร่วมกับ World Economic Forum ในการเสนอแนวทางเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงาน ในอนาคต ทักษะที่สำคัญที่สุดคือทักษะข้อ 7 Empathy and active listening (การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งนี้ทักษะที่ต้องการสำหรับเยาวชนในวันนี้คือ Emotional Intelligence หรือความฉลาดทางปัญญา




     


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท. สำนักงานกรุงเทพฯ ร่วมกับ สธทท. จัดโครงการ "ไหวัพระริมน้ำให้ฉ่ำบุญ ปทุมธานี"

ททท. สำนักงานกรุงเทพฯ ร่วมกับ สธทท. จัดโครงการ "ไหวัพระริมน้ำให้ฉ่ำบุญ ปทุมธานี"  พานักท่องเที่ยวกราบพระ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 5 วัดดัง เพื่อความเป็นสิริมงคล         การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกรุงเทพมหานคร ร่วมกับ สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) ร่วมกันจัดทริปท่องเที่ยว "ไหวัพระริมน้ำให้ฉ่ำบุญ ปทุมธานี" นำนักท่องเที่ยวจำนวน 100 ท่าน เดินทางกราบพระ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่จังหวัดปทุมธานี โดยมี อ.มุ่ย หูทิพย์ (ชวิศ ชื่นเจริญ) นำขอพร ไหว้พระให้ถูกที่ ทำพิธีให้ถูกทาง เพื่อให้เกิดความสำเร็จผลกับใจ และ บริษัท ซิลเวอร์ สโตน ทัวร์ แอนด์ แทรเวิล จำกัด เป็นผู้ดำเนินการในการพาเที่ยวในทริปนี้ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567        คณะนักท่องเที่ยวนัดพบกัน ณ โรงแรม เดอะบาซาร์ แบ็งคอก รัชดา ลาดพร้าว เมื่อมาพร้อมกันแล้ว รถบัสปรับอากาศก็ออกเดินทางสู่จังหวัดปทุมธานีทันที  โดยระหว่างทางมีการบริการอาหารว่างเช้า แบบ Set Box บนรถ ใช้เวลาไม่นานนักก็เดินทางถึง "วัดโบสถ์สามโคก" หรือ "วัดหลวงพ่อโตองค์ใหญ่" ต.บางกระบือ อ.สามโคก จังหว...

เจปีนี้ อิ่มเจ อิ่มบุญ อิ่มความสุข ที่สามย่าน-บรรทัดทอง ในงานเทศกาลกินเจ “Amazing J Fest 2 : Light The Town Up”

เจปีนี้ อิ่มเจ อิ่มบุญ อิ่มความสุข ที่สามย่าน-บรรทัดทอง ในงานเทศกาลกินเจ “Amazing J Fest 2 : Light The Town Up”        สำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ (PMCU) จัดยิ่งใหญ่ เทศกาลกินเจ 2567 ชวนชิม อาหารเจ หลากหลาย ในงานเทศกาลกินเจ “Amazing J Fest 2 : Light The Town Up” รวบรวมร้านอาหารเจขวัญใจโซเชียล และร้านรุ่นเก๋าในตํานานกว่า 100 ร้าน พร้อมเนรมิตสีสันด้วยอุโมงค์ดอกไม้และโคมไฟยักษ์ สุดตระการตา อิ่มเจ อิ่มบุญ อิ่มทุกความสนุก มางานเดียวครบรสกว่าที่เคย ที่ถนนบริเวณสามย่าน-บรรทัดทอง (จุฬาฯ ซอย 5) พร้อมชวนช้อปวัตถุดิบทำอาหารเจ และอาหารเจหลากหลาย ที่ตลาดสามย่าน ตั้งแต่วันนี้ - 11 ตุลาคม 2567 นายสหรัฐ โพธิโต รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกรุงเทพ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นายดำรงค์ เลี้ยงชีพ ผู้จัดการทั่วไปส่วนบริหารกิจการสวนหลวงสแควร์ สำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ (PMCU) และพันธมิตร ร่วมพิธีเปิดงาน เทศกาลกินเจ “Amazing J Fest 2 : Light The Town Up” อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการเชิดสิงโตถวายเจ้าแม่ทับทิม ณ ศาลเจ้าแม่ทับทิมอุทยาน 100 ปีจุฬาฯ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่...

พิธีเททองหล่อหลวงพ่อพระนาคปรก ประดิษฐาน ณ พระอุโบสถวัดมัชฌิมาวาส

พิธีเททองหล่อหลวงพ่อพระนาคปรก ประดิษฐาน ณ พระอุโบสถวัดมัชฌิมาวาส        นายเรืองไชย สุขเกษม (อาจารย์อ๊อด) ประธานจัดงานและดำเนินการสร้างหลวงพ่อพระนาคปรกจำลอง หน้าตัก ๓๔  นิ้ว เพื่อประดิษฐานในพระอุโบสถ ณ วัดมัชฌิมาวาส พระอารามหลวง ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี วันอาทิตย์ที่ ๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗         พิธีเททองหล่อหลวงพ่อพระนาคปรก เริ่มจากพิธีบวงสรวงเทพเทวดา บุรพาจารย์วัดมัชฌิมาวาส โดยมี ดร.หม่อมหลวงสราลี กิติยากร และคณวุฒิศักดิ์ รัตนสุวรรณ์ ที่ปรึกษา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้เกียรติเป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย         จากนั้น พระพรหมวัชรคุณาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี ประธานฝ่ายสงฆ์ เริ่มประกอบพิธีเททองหลวงพ่อพระนาคปรกจำลอง พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา โดยมี นายเรืองไชย สุขเกษม (อาจารย์อ๊อด) ประธานจัดงาน ดร.หม่อมหลวงสราลี กิติยากร และคุณวุฒิศักดิ์ รัตนสุวรรณ์ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดอุ...