"แพทองธาร" นายกรัฐมนตรี "ทวี" รมว.ยุติธรรม และ "บิ๊กต่าย" ผบ.ตร. ร่วมแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติด ล๊อตใหญ่ ณ ตำรวจภูธรภาค 1
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แถลง 10 นโยบายเร่งด่วนต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 โดยในนโยบายเร่งด่วนที่ 8 รัฐบาลจะเร่งแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาดและครบวงจร ตั้งแต่ตัดต้นตอการผลิตและจำหน่ายด้วยการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน สกัดกั้น ควบคุมการลักลอบนำเข้า และตัดเส้นทางการลำเลียงยาเสพติด ปราบปรามและยึดทรัพย์ผู้ค้า รวมทั้งมีระบบติดตามดูแลช่วยเหลือผู้ติดยาเสพติดไม่ให้กลับไปสู่วงจรอีก
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม/ประธานคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการพักคอยยาเสพติดในพื้นที่ตอนในและสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร./ประธานอนุกรรมการป้องกันปราบปรามการพักคอยยาเสพติดในพื้นที่ตอนในและสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้ และ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ปปส. ได้สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ตอนในรอบกรุงเทพฯและปริมณฑล รวม 9 จังหวัด เร่งรัดทำการสืบสวนหาข่าวและ X ray พื้นที่ เพื่อปราบปรามทำลายแหล่งพักคอยและรวบรวมยาเสพติดที่ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านตามแนวตะเข็บชายแดน เข้ามายังพื้นที่ตอนในเพื่อรอเตรียมส่งต่อให้กับลูกค้าในพื้นที่ต่างๆ
ตำรวจภูธรภาค 1 นำโดย พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 ได้เร่งรัดดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ถึงปัจจุบัน ได้ทำการสืบสวนจับกุมยาเสพติดได้รวมจำนวน 7,961 คดี ผู้ต้องหารวม 8,100 คน ของกลาง ยาบ้ารวม 96 ล้านเม็ดเศษ ยาไอซ์รวม 3,496 กก. เคตามีนรวม 42 กก. และของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ สามารถตรวจยึดทรัพย์สินคิดเป็นมูลค่ารวม 389 ล้านบาทเศษ
สำหรับผลการจับกุมรายสำคัญ พอสรุปได้ดังนี้
1. เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2568 จับกุมทีมลำเลียงยาเสพติด “เจ้าโย วายร้าย 15” ได้ผู้ต้องหารวม 4 คน ตรวจยึดยาไอซ์ 35 กก. และคีตามีน 34 กก. จับกุมที่บริเวณริมถนนทางหลวงชนบทสาย นย.2024 (สระบุรี - นครนายก) ต.บางปลากด อ.องครักษ์ จว.นครนายก ต่อเนื่องบ้านพัก ต.คลองใหญ่ อ.องครักษ์ จว.นครนายก
2. เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 จับกุมทีมโกดังยาเสพติด “เสือเปรม ปชน.” ได้ผู้ต้องหา 1 คน ตรวจยึดยาไอซ์ 217 กก. ยาบ้า 560,000 เม็ด ยาอี 3,163 เม็ด เคตามีน 88 กรัม จับกุมที่บริเวณลานจอดรถภายในปิยรมณ์อพาร์ทเม้น ซ.งามวงศ์วาน 23 แยก 15 ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ต่อเนื่องห้องพักภายในปิยรมณ์ อพาร์ทเม้น ซ.งามวงศ์วาน 23 แยก 15 ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
3. เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 จับกุมแหล่งพักคอย “ทีมโกดังป่างิ้ว อ่างทอง” ได้ผู้ต้องหารวม 5 คน ตรวจยึดยาบ้า 8.4 ล้านเม็ด จับกุมที่โกดังพักยาเสพติด ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ป่างิ้ว อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง
4. เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 จับกุมยาเสพติด เครือข่าย “แจ็ค หนองไผ่” ได้ผู้ต้องหา 4 คน ตรวจยึดยาบ้า 3.2 ล้านเม็ด จับกุมที่บริเวณบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ ต.โคกลำพาน อ.เมืองลพบุรี จว.ลพบุรี
5. เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 ร่วมกับ บช.ปส. สกัดจับรถลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนใน ได้ผู้ต้องหารวม 3 คน ตรวจยึดยาไอซ์ 2,464 กก. สกัดจับได้ที่จุดสกัดตู้ยาม ต.02 หมู่ ๔ ต.ท่าตอ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา
6. เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2568 ตรวจยึดยาไอซ์ 520 กก. ภายในโกดังไม่มีเลขที่ ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
7. เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2568 ตรวจยึดยาบ้า 4.4 ล้านเม็ด ได้ผู้ต้องหารวม 2 คน จับกุมได้ที่บ้านหลังหนึ่ง พื้นที่หมู่ 7 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
8. เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2568 ตรวจยึดยาไอซ์ 262 กก. ได้จากรถยนต์กระบะที่ประสบเหตุอุบัติเหตุที่บริเวณถนนพหลโยธิน อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
9. เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2568 จับกุมรถขนยาไอซ์จากภาคอีสาน มุ่งหน้าเข้ามายังพื้นที่ตอนใน ได้ผู้ต้องหา 2 คน ตรวจยึดยาไอซ์ 200 กก. จับกุมได้ที่ในพื้นที่ ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
และในวันนี้ วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ขอแถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ ซี่งเป็นผู้ลำเลียงยาเสพติด นำมาพักคอยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยสามารถทำการจับกุมได้ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 มีรายละเอียดดังนี้
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำโดย นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร./ประธานอนุกรรมการป้องกันปราบปรามการพักคอยยาเสพติดในพื้นที่ตอนในและสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรวง รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. สำนักงาน ป.ป.ส. นำโดย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. นาย ทิพเมษฐ์ สังขวรรณะ ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปส.ภาค 1 และ ว่าที่ร้อยตรี อากาศ ปานแย้ม นักวิเคราะห์นโยบายและแผนเชี่ยวชาญ สำนักงาน ปปส.ภาค 1ตำรวจภูธรภาค 1 นำโดย พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.นฤนาท พุทไธสง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ประธาน นันทกอบกุล รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.วิศิษฏ์ มะอักษร รอง ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.จักรพันธ์ โอสถากันต์ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.1 และ พ.ต.อ.พีรพัสส์ ชูช่วย ผกก.สืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม
คดีนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 21 มี.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมกันจับกุม รถบรรทุกเทรลเล่อร์ขน ยาเสพติดในพื้นที่ อ.พยุหคีรี จ.นครสวรรค์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ปพ.บก.สส.ภ.1 ชุดขยายผลฯ ศอ.ปส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และ กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา จึงได้ทำการสืบสวนขยายผล จนกระทั่งทราบว่า กลุ่มลูกค้าที่เคยรับยาเสพติดจากรถบรรทุกเทรลเล่อร์คันดังกล่าว ได้นำยาเสพติดมาเก็บซุกซ่อนไว้ภายในบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ ต.ราชคราม อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้เฝ้าติดตามตรวจสอบพฤติกรรมเรื่อยมา
จนกระทั่ง ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 06.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้สนธิกำลังกันเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ที่ 5 ต.ราชคราม อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ผลการตรวจค้น พบ
ยาบ้า 40 กระสอบ คิดเป็นจำนวนยาบ้าประมาณ 8,732,000 เม็ด ยาไอซ์ 18 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 720 กิโลกรัม จับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย คือ นายแบ็ค (นามสมมติ) อายุ 32 ปี โดยกล่าวหาว่า “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า และยาไอซ์) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสืบสวนขยายผลหาผู้ร่วมกระทำความผิดในคดีนี้อย่างเร่งด่วนต่อไป
ตำรวจภูธรภาค ๑ จะได้เร่งรัดสืบสวนปราบปราม และ X-ray พื้นที่ ไม่ให้เป็นแหล่งพักคอย รวมทั้งจะเข้มงวดกวดขันสกัดกั้น ตัดตอนการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ตอนในอย่างต่อเนื่องต่อไป และใคร่ขอประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชน หากพบบุคคล รถต้องสงสัย หรือมีข้อมูลเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถติดต่อให้ข้อมูลได้ที่สถานีตำรวจที่ท่านสะดวก หรือ สายด่วน 191 และ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำข้อมูลดังกล่าวไปสืบสวนขยายผลจับกุมผู้กระทำผิดต่อไป
“ตำรวจภูธรภาค 1 เป็นหนึ่ง พึ่งได้ ทันสมัย ดูแลความปลอดภัย เพื่อประชาชน”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น