วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2567

สนท. จัด Fam Trip นำสมาชิก "เปิดเส้นทางบางคล้า ฉะเชิงเทรา แหล่งท่องเที่ยวใหม่ใกล้กรุง"

สนท. จัด Fam Trip นำสมาชิก

"เปิดเส้นทางบางคล้า ฉะเชิงเทรา แหล่งท่องเที่ยวใหม่ใกล้กรุง"



        สมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวไทย (สนท.) นำโดย นายวิทวัส เมฆสุต นายกสมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวไทย (สนท.) นำสมาชิกจำนวน 40 ท่าน เดินทางสู่จังหวัดฉะเชิงเทรา ในโครงการ Fam Trip "เปิดเส้นทางบางคล้า แหล่งท่องเที่ยวใหม่ใกล้กรุง" เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน 2567




         คณะเราพร้อมกัน ณ จุดนัดพบ ปั้ม ปตท. วิภาวดี เมื่อมาพร้อมกันเรียบร้อย ก็ออกเดินทางสู่จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยรถตู้ปรับอากาศ โดยมีจุดหมายปลายทางแรกคือ "สวนปาล์มฟาร์มนก" อ.คลองเขื่อน หรือ "โรงแรมในสวนสัตว์" เพราะเป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวพร้อมที่พัก ที่มีมาตราฐานใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และยังอยู่ในอันดับต้นๆ ของเอเชีย บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ที่เป็นทั้งศูนย์การเรียนรู้และและอนุรักษ์สายพันธุ์นกแก้วมาคอว์ รวมทั้งสัตว์ปีกสวยงามหลายสายพันธุ์จากต่างประเทศ ของ ดร.โภคิน พลกุล ผู้ก่อตั้ง โดยเริ่มแรกทีเดียว ท่านได้เลี้ยงไว้ดูเล่นเป็นการส่วนตัวที่บ้าน จนวันหนึ่งท่านเห็นในความน่ารักและแสนรู้ของนกเหล่านี้ จึงอยากจะเปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้และอนุรักษ์ รวมถึงเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ ไว้ให้หลายๆ คนได้ชื่นชมเช่นเดียวกัน




         เมื่อคณะเราไปถึง นายพุฒิพงษ์ ธีระเมธ  ผู้บริหารของสวนปาล์มฟาร์มนก ก็มาให้การต้อนรับ พร้อมทั้งบรรยายสรุปเกี่ยวกับข้อมูลต่างๆ ในสวนปาล์มฟาร์มนกว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง นักท่องเที่ยวมาที่นี่สามารถเดินเที่ยวชมสวนรอบๆ หรือเช่ารถกอล์ฟขับเล่นในสวน หามุมถ่ายรูปชิลล์ๆ แต่วันนี้คณะเราเลือกที่จะนั่งรถกอล์ฟได้เข้าไปภายใน เราจะเห็นว่าที่นี่มีต้นปาล์มปลูกไว้อยู่มากมาย เป็นต้นปาล์มสายพันธุ์ต่างๆ จากต่างประเทศนับหมื่นต้น   ชมต้นปาล์มจนเพลินก็มาถึงฟาร์มนก ซึ่งเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลยก็ว่าได้ เราจะพบกับความน่ารักและแสนรู้ของนกแก้วมาคอว์สีแปลกตาหาดูยาก อาทิ พันธุ์ Hyacinth Oplaine macaw และ Blue & White macaw (มีประมาณ 20 ตัวในโลกเท่านั้น) รวมทั้งสัตว์ปีกสวยงามสายพันธุ์ต่างๆ มากกว่า 80 สายพันธุ์จากทั่วโลกที่หาดูได้ยาก ที่เลี้ยงอยู่อย่างอิสระภายในกรง ที่เราสามารถสนุกสนานกับการเลี้ยงอาหารนกเซลฟี่ถ่ายภาพอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ที่นี่ยังมี สวนหงส์ - ห่าน, สวนกวาง - ไก่, สวนเป็ด บ้านแพะ - แกะ และเต่ายักษ์อีกด้วย





        ส่วนพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ จะเป็นอาคาร 2 ชั้น โดยแบ่งเป็น ห้องชมวิดีทัศน์, ห้องชมนิทรรศการ และศูนย์อนุบาลลูกนก เรียกได้ว่าเป็นเจ้าแรกที่มีห้องจัดแสดงนิทรรศการ เกี่ยวกับนกแก้วมาคอว์สายพันธุ์จากต่างประเทศ ที่ครอบคลุมมากที่สุด






         พบกับความน่าทึ่งและสวยงามของนกแก้วมาคอว์ ที่สวยงามแล้ว คณะเราก็เดินทางไป "อุทยานพระพิฆเนศ" อ. คลองเขื่อน ที่ พล.ต.อ. สมชาย วาณิชเสนี ประธานมูลนิธิพระพิฆเนศคลองเขื่อนฯ และมูลนิธิทองประทานฯ และอดีตนายกสมาคมชาวฉะเชิงเทรา ได้จัดสร้างอุทยานพระพิฆเนศขึ้น เพื่อกราบไหว้บูชาพระพิฆเนศองค์ยืนที่สูงที่สุดในโลก ที่มีนามว่า “พระพิฆเนศปางยืน องค์สำริด สำเร็จ สมปรารถนา” ที่ประดิษฐาน ณ ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง มีลักษณะเป็นพระพิฆเนศองค์ยืนปางเกษตร เนื้อโลหะบรอนซ์นอก (สำริด) สีดำ สูง 30 เมตร ถ้านับความสูงรวมฐานสูง 39 เมตร ประกอบด้วยชิ้นส่วน 854 ชิ้น พระหัตถ์ทั้ง 4 ถือ พืชพรรณและธัญญาหาร ได้แก่ กล้วย ยอดอ้อย มะม่วง ขนุน และที่พระบาทมีหนูกอดลูกมะพร้าวซึ่งมีความหมาย คือ ความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดินเชื่อกันว่า หากท่านใดได้ว่ากราบไหว้ จะนำพาให้ชีวิต มีแต่โชคลาภและสิ่งอันเป็นมงคงมาสู่ตนเองและครอบครัว ภายในบริเวณอุทยานยังมีเทวรูปของพระพิฆเนศประจำวันเกิด, พระแม่อุมา, พระอิศวร, พระพิฆเนศจำลองจากเมืองต่างๆ ในประเทศอินเดีย ให้สักการะอีกด้วย




          จากนั้นก็แวะรับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านร่มไม้สายธารบางคล้า โดยมี คุณสุกฤตา อนุกูลสาธุกิจ รองผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานฉะเชิงเทรา ตัวแทนนายจิรศักดิ์ อ่วมอุไร ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานฉะเชิงเทรา และนายสิทธิชัย สุวรรณนุรักษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักบริหารโครงการความร่วมมือ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก มาพูดคุยถึงความร่วมมือกับ สนท. ในโครงการ และกิจกรรมต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น




      หลังอิ่มหนำสำราญ คณะเราก็เดินทางกันต่อไปที่ ศูนย์พัฒนาชีวิตผู้ป่วยจิตเวช บ้านสวนสายใย-ก้อนแก้ว เป็นศูนย์พัฒนาชีวิตผู้ป่วยจิตเวชแบบองค์รวม (Holistic) ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคมและจิตวิญญาณ เพื่อฟื้นฟู และพัฒนาผู้ป่วยจิตเวช เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยจิตเวชได้พัฒนาชีวิตและสามารถดำรงชีวิตได้อย่างคนปกติทั่วไป รวมถึงพัฒนารูปแบบการฟื้นฟูผู้ป่วยจิตเวชในชุมชนโดยการเสริมสร้างพลังอำนาจ (Empowerment) ให้ผู้ป่วยจิตเวชในการทำหน้าที่พลเมืองที่ดี โดยมีคุณศริฎา กัลยณชาติ ผู้อำนวยการศูนย์ฯ มาบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับกิจกรรมของศูนย์ในการฟื้นฟูผู้ป่ว





พร้อมให้คณะเราร่วมทำกิจกรรมบำบัดเทคนิคปลดล็อคความเครียด 2 แหก 1 ฮา (แหกตา แหกปาก แลบลิ้น เปล่งงเสียงฮาให้ออกมาจากช่วงท้อง เพื่อเป็นการปลดล็อคความเครียด และกิจกรรมกอดตัวเอง (Self hug) ฟื้นฟูตัวเองด้วยหลักสูตรเติมพลังชีวิตคืนสู่สุขภาวะจิตใจ - กาย เพื่อเป็นการขอบคุณร่างกายตัวเอง ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมเบื้องต้นในใช้บำบัดเบื้องต้น ซึ่งสร้างความสนุกสนาน ครื้นเครงให้กับคณะเราอย่างมาก จากนั้นคณะเราก็ร่วมทำกิจกรรมทำสเปรย์ตะไคร้หอมกันยุง และ Art for Life การเพ้นท์สีบนรูปหัวใจ ที่ไม่มีขอบเขต ตกแต่งแต้มสีตามจินตการอย่างเสรี ปิดท้ายด้วย นายวิทวัส เมฆสุต นายก สนท. และสมาชิก ร่วมกันมอบแผงโซล่าเซลล์ ราคาจำนวนเงิน 35,000 บาท ให้แก่ทางศูนย์ฯ





       หลังจากนั้น คณะเราก็เดินทางไปที่ "JIMMY FARM" (จิมมี่ฟาร์ม)" ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวและศูนย์การเรียนรู้การเกษตรผสมผสานออร์แกนิก ปลอดสารพิษ ที่มีทั้ง สวนผักสวนครัว สวนมะเขือเทศ เมล่อน เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ รวมทั้งทำนาปลูกข้าว เมื่อคณะเราไปถึง นายเอกวิทย์  สุทธิธรรม เจ้าของจิมมี่ฟาร์ม ก็ให้การต้อนรับอย่างดียิ่ง พร้อมเล่าถึงประวีติความเป็นมาของที่นี่ รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่มีในฟาร์ม ได้แก่ การให้อาหารปลา - เป็ด, ระบายสีพัดกาบหมาก มาวาดรูปบนพัดลมมือที่ทำมาจากกาบหมากในสวนหมากของชาวร่องสวนแปดริ้ว, ปลูกผักรักษ์โลก Low Carbon ปลูกผักสลัดจากฟาร์มผัก แล้วนำกลับไปดูแล, Farm to table เก็บวัตถุดิบ Organic จากฟาร์มมาปรุงอาหารสร้างสรรค์เป็นเมนูหลากหลาย, ทำไข่เค็มเตยหอม เก็บไข่เป็ดมาทำไข่เค็มแปรรูป, สวนขวด (Terrarium) เนรมิตธรรมชาติมาอยู่ในขวดน้อย สร้างสรรค์จินตนาการ ช่วยผ่อนคลายจิตใจ, ผ้ามัดย้อมจากสีธรรมชาติ แต่งแต้มเติมสีจากธรรมชาติลงบนผืนผ้า, ปลูกมะม่วงเพื่อสืบสานและแบ่งปัน ปลูกและแจกจ่ายอนุรักษ์มะม่วงพันธุ์หายากให้กับชุมชน และปลูกผักให้น้อง ปลูกผักแล้วส่งต่อให้น้องๆในโรงเรียน เพื่อสร้างพื้นที่สีเขียว และยังเป็นอาหารแสนอร่อย





 แต่ทริปนี้คณะเราเลือกที่จะทำไข่เค็มเตยหอม ด้วยวิธีแสนง่าย ก่อนอื่นคณะเราก็ต้องไปเก็บไข่เป็ดที่เล้าเป็ดด้วยตนเอง หลังเก็บไข่มาแล้วก็นำมาพอกด้วยดินสอพองที่ผสมเกลือหนาประมาณ 3-5 มม. จากนั้นนำไปคลุกใบเตยหอมให้ทั่วไข่ แล้วนำไปบรรจุใส้กล่อง ทิ้งไว้ 7 วัน ก็สามารถทอดเป็นไข่ดาว ถ้าทิ้งไว้ 15 วันก็จะเป็นไข่เค็มตามต้องการ





        สนุกสนานกับการทำไข่เค็มด้วยตนเอง ก็เดินทางไป "Coco Cowboy Cafe" คาเฟ่สุดชิคท่ามกลางสวนมะพร้าวแสนร่มรื่น  ที่ให้บริการมะพร้าวน้ำหอมและเมนูแปรรูปจากมะพร้าวน้ำหอมให้แวะมาได้ลองลิ้มชิมรส นั่งชิวๆ จิบกาแฟในบรรยากาศสบายๆ ท่ามกลางสวนมะพร้าวน้ำหอม โดยมี คุณยอดหญิง พรชัยสิทธิ์ เจ้าของมาให้ข้อมูลในการเลือกมะพร้าวน้ำหอม ที่นี่คณะเราก็สั่งกาแฟมาดื่มกันหลากหลายเมนู 




ส่วนเมนูทึ่ไม่ควรพลาด ต้องลองก็คือ อเมริกาโน่ Coco กาแฟมะพร้าวเข้มข้นสูตรอเมริกาโน่ ที่ผสมน้ำมะพร้าวน้ำหอมเข้มข้น ให้ความหอมหวานตัดรสขมขอกาแฟได้อย่างลงตัว, กาแฟน้ำมะพร้าว ทั้งกาแฟมะพร้าวปั่น ที่ทางร้านจะปั่นมะพร้าวนมสดใส่แก้วมา แล้วแยกกาแฟมาให้ และ กาแฟมะพร้าวเผา อันนี้จะมาเป็นน้ำมะพร้าวเผา แยกกาแฟมาเหมือนกัน, กาแฟและชาเขียวดอกเกลือ, ตาลโตนดลาเต้, มะพร้าวนมสดปั่น, โกโก้น้ำนมข้าว, ชาเขียวมะพร้าว, มะยงชิดปั่น, น้ำตาลโตนดสด, เค้กมะพร้าว รวมทั้ง ไอกรีมมะพร้าวน้ำหอม ที่ต้องลองเช่นกัน เพราะใช้วัตถุดิบมะพร้าวน้ำห้อมล้วนๆ เนื้อไอติมเข้มข้น ทานกับเนื้อมะพร้าหอมเย็นสดชื่น อร่อยมาก, Cooball ขนมทรงกลมนุ่มหนึบที่เป็นการผสานระหว่างขนมจากและบ้าบิ่น มีความหอมได้สัมผัสเนื้อมะพร้าวเน้นๆ และยังมีอาหารจานเดียวไว้บริการ เช่น ส้มตำ ขนมจีน แกงไก่หน่อกะลายอดมะพร้าว ก็อร่อยดีเหมือนกัน




ภายในร้านยังมีมุมสวยให้ถ่ายภาพมากมาย ทั้งโซนริมน้ำ โซนป่าสน และสวนมะพร้าว ทานกาแฟรสชาติดีๆ แล้วก็ได้เวลาอำลาจังหวัดฉะเชิงเทรา เดินทางกลับกรุงเทพมหานครโดยสวัสดิภาพ













ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แอลจี เปิดตัว ‘LG Subscribe’ พลิกโฉมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า

แอลจี เปิดตัว ‘LG Subscribe’ พลิกโฉมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า  เป็นเจ้าของง่ายขึ้นด้วยบริการ Subscription       บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศ...