ตำรวจภูธรภาค ๑ จับกุมเครือข่ายยาเสพติด โกดังกำแพงแสน จ.นครปฐม มูลค่ากว่า ๕๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท
ยึดยาบ้า ๑,๔๐๐,๐๐๐ เม็ด ยาไอซ์ ๗๙ กก. ยาเค ๘๕ กก.
ตามนโยบายรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง และ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดทั้งระบบด้วยการสืบสวนขยายผลและวิเคราะห์ความเชื่อมโยงเครือข่ายของนักค้ายาเสพติด อย่างรู้เท่าทัน เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นทาง-กลางทาง-ปลายทาง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ต่อมาในวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๖๗ จากการสืบสวนทราบว่า นายยุทธนาฯ และนายพิชาญฯ ผู้ต้องหาใช้รถยนต์อเนกประสงค์สีเทาเป็นยานพาหนะ ได้มารับยาเสพติดในพื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงสะกดรอยติดตามจนถึงบริเวณทางหลวงชนบทหมายเลข ๓๓๙๔ ม. ๑๒ ต.ห้วยหมอนทอง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้า
แสดงตนเข้าตรวจสอบ และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้พร้อมของกลาง ดังนี้
๑. ยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า จำนวน ๘ กระสอบ รามจำนวน ๗๐๐ มัด ประมาณ ๑,๔๐๐,๐๐๐ เม็ด
๒. ยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาไอซ์) จำนวน ๖ กระสอบ รวมน้ำหนักประมาณ ๗๙ กิโลกรัม
๓. วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท ๒ ยาเค (คีตามีน) จำนวน ๕ กระสอบ รวมน้ำหนักประมาณ ๘๕ กิโลกรัม
๔. รถยนต์อเนกประสงค์สีเทา จำนวน ๑ คัน (ใช้ลำเลียงยาเสพติด)
โดยกล่าวหานายยุทธนาฯ และนายพิชาญฯ กระทำผิดฐานร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้าและยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท ๒ (คีตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่ม และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป
จากการซักถามขยายผล นายยุทธนาฯ รับว่าทำหน้าที่ขับรถไปรับและนำยาเสพติดส่งให้ลูกค้าตามที่นายพิชาญฯ สั่งการ โดยทั้งสองจะได้รับค่าจ้างในการรับ-ส่งยาเสพติดครั้งนี้ รวมเป็นเงินจำนวน ๕๐,๐๐๐ บาท และได้ตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทั้งสองแล้ว พบว่านายยุทธนาฯ เคยถูกจับกุมดำเนินคดีในความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีน)ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย เสพยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีน) และมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนายพิชาญฯ เคยถูกจับกุมดำเนินคดีในความผิดฐานมีและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย ในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรตอนตูม จ.นครปฐม
การจับกุมในครั้งนี้ เป็นการยับยั้งการแพร่กระจายของยาเสพติดไปสู่ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งยาเสพติดของกลางหากถูกนำออกขายสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่าสูงถึงประมาณ ๕๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะขยายผลถึงกลุ่มลูกค้า ผู้สั่งการ และบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด โดยจะนำมาตรการสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ ฟอกเงิน และยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินการกับบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดต่อไป
หากพบบุคคล รถต้องสงสัย หรือมีข้อมูลการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถติดต่อให้ข้อมูลได้ที่สถานีตำรวจที่ท่านสะดวก หรือ สายด่วน ๑๙๑ เพื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำข้อมูลดังกล่าวไปสืบสวนขยายผลจับกุมผู้กระทำผิดต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น