วันอังคารที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2567

"ชาวลาดกระบัง 15/2-3" สุดทน โดนเรียกเก็บค่าจอดรถ ร้องขอความช่วยเหลือ "มลูนิธิดาวเหนือ"

"ชาวลาดกระบัง 15/2-3" สุดทน 

โดนเรียกเก็บค่าจอดรถ

ร้องขอความช่วยเหลือ "มลูนิธิดาวเหนือ"

          ว่าที่ร้อยตรีชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ ทนายความจากกลุ่มทนายใจดี พร้อมด้วย "มาดามส้ม" ดร.พิมไหมทอง ศักดิพัตโภคิน หัวหน้าพรรครุ่งเรือง ได้ลงพื้นที่เขตลาดกระบังซอย 15/2 และ 15/3 เพื่อรับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านในโครงการชุมชนอาคารพาณิชย์หลังธนาคารกรุงเทพ สาขาลาดกระบัง เมื่อวันที่  28 มกราคม 2567 เวลา 12:00 น.

          กรณีนี้ ชาวบ้านได้ร้องเรียนว่าเจ้าของโครงการหรือเจ้าของที่ดินเดิมได้เรียกคืนที่ดินภาระจำยอมนำไปสร้างที่จอดรถและเรียกเก็บเงินจากผู้อยู่อาศัยในโครงการ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2534 นั้นไม่เคยมีการเรียกเก็บเงินค่าจอดรถจากผู้อาศัยหรือผู้ซื้อโครงการแต่อย่างใด เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นมาประมาณ 6 เดือนก่อนหน้านี้ โดยเข้ามาปักหมุดในพื้นที่ถนนทางเข้าออกซอยเดิมทำให้ถนนเข้าออกซอยแคบลง และมีการจอดรถกีดขวางทางเข้าออกเรื่อยมา และยังมีการติดป้ายห้ามบุกรุกในพื้นที่ภาระจำยอมดังกล่าวไม่ให้ผู้อยู่อาศัยในชุมชนอาคารพาณิชย์ดังกล่าวใช้ประโยชน์ได้หากไม่มีการชำระค่าเช่าพื้นที่ ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนทั้งที่ที่ดินดังกล่าวมีการจดทะเบียนภาระจำยอมไว้ถูกต้อง

           จากการลงพื้นที่ของ ว่าที่ร้อยตรีชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ ทนายความจากกลุ่มทนายใจดี และ "มาดามส้ม" ดร.พิมไหมทอง ศักดิพัตโภคิน หัวหน้าพรรครุ่งเรืองเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมรับมอบเอกสารหลักฐาน ได้แก่ โฉนดที่ดินและผังพื้นที่ของกรมที่ดินเขตลาดกระบัง เบื้องต้นพบว่าในโฉนดที่ดินตามที่ชาวบ้านได้ไปคัดมานั้นมีการจดทะเบียนภาระจำยอมกันอยู่จริง และสิทธิในการใช้ที่ดินภาระจำยอมนั้น มิได้มีการยกเลิกการใช้หรือจดทะเบียนยกเลิกแต่อย่างใด

          การที่เจ้าของที่ดินเดิมหรือผู้ที่รับช่วงต่อมาดำเนินการจัดสรรที่ดินภาระจำยอมและแบ่งให้เช่านั้น จึงอาจเข้าข่ายไม่สุจริตและเป็นการละเมิดสิทธิ์ต่อผู้ซื้อโครงการแต่เดิมอันเกี่ยวเนื่องกับผู้บริโภคโดยตรง

           ดังนั้นกรณีดังกล่าว ทางกลุ่มทนายใจดีและมาดามส้มจะได้ดำเนินกระบวนการสอบถามไปยังเจ้าของโครงการ สำนักงานเขต และกรมที่ดิน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงทั้งสองฝ่ายในทุกด้าน เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านผู้อยู่อาศัยในชุมชนโครงการดังกล่าว ทั้งนี้ยังกล่าวต่อไปว่าขอให้ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นผู้อยู่อาศัยผู้ซื้อโครงการและเจ้าของที่ดินโปรดคำนึงถึงด้านคุณธรรมเป็นสำคัญ เพื่อให้ได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขและไม่เกิดการกระทบกระทั่งและฟ้องร้องกันเกิดขึ้นในอนาคตต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ททท. ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนความหลากหลายทางเพศ พร้อมดันประเทศไทยเป็น  Top LGBTQ+ Friendly Destination ผ่านงาน PRIDE NATION SAMUI INTE...