"สืบพงษ์" อธิการบดีรามคำแหง กลับมารับหน้าที่อธิบดีตามคำสั่งศาล ไม่สนแม้สภามหาวิทยาลัยจะเห็นต่าง พร้อมเดินหน้าทำหน้าที่อย่างดีที่สุด

"สืบพงษ์" อธิการบดีรามคำแหง กลับมารับหน้าที่อธิบดีตามคำสั่งศาล 

ไม่สนแม้สภามหาวิทยาลัยจะเห็นต่าง พร้อมเดินหน้าทำหน้าที่อย่างดีที่สุด

        จากกรณีที่สภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้มีมติเมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ให้ถอดถอน ผศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ ออกจากตำแหน่งอธิการบดี ด้วยข้อกล่าวหาว่าประพฤติผิดจริยธรรมและจรรยาบรรณในพฤติการณ์ ๓ กรณี คือ

ผศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่

        ๑. ผศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ ให้ความช่วยเหลือนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ซึ่งถูกกล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปกติ โดยการรับโอนที่ดินจากนายสุพจน์ จำนวน ๒ แปลง และกล่าวอ้างว่าเงินของนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ที่ถูกยืดเป็นของกลางส่วนหนึ่งจำนวน ๘,๕๐๐,๐๐๐ บาทนั้น เป็นเงินของ ผศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ เมื่อมีคำพิพากษาให้ที่ดินและเงินของ ผศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ ตกเป็นของแผ่นดิน และผศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ไม่ได้รายงานให้มหาวิทยาลัยรามคำแหงซึ่งเป็นตันสังกัดหราบ สภามหาวิทยาลัยเห็นว่าเป็นการประพฤติผิดต่อพระราชบัญญัติมาตรฐานจริยธรรม พ.ศ. ๒๕๖๒ และเข้าข่ายประพฤติผิดจรรยาบรรณของผู้บริหารตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยรามคำแหง ว่าด้วยจรรยาบรรณข้าราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย และลูกจ้าง ม.ร. รวมถึง ผิดพรบ.ระเบียบข้าราซการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗

          ๒. ผศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ ใข้คุณวุฒิปริญญาเอกที่ไม่ได้รับการรับรองจากสำนักงาน ก.พ. มาสมัครเข้าเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยตำแหน่งอาจารย์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง จึงเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ ไม่มีฐานะเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยมาตั้งแต่แรก และแสดงถึงความไม่ซื่อสัตย์สุจริต ขาดจริยธรรม

           ๓. ผศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ ได้ยื่นหนังสือลงวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๕ ทูลเกล้าฯ ถวายฎีการ้องทุกข์ โดยบิดเบือนข้อเท็จจริง เป็นการกระทำที่ไร้จริยธรรมและประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง
           ด้วยสาเหตุดังกล่าว ในการประชุมครั้งนั้นมีมติถอดถอนอธิการบดีด้ และแต่งตั้ง ผศ ดร.บุญชาล ทองประยูร เป็นผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยมีอุปนายกสภามหาวิทยาลัย (ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกสภามหาวิทยาลัย) ลงนามหนังสือแต่งตั้งดังกล่าว และได้เพิกถอนสัญญาจ้าง ผศ.ดร.สืบพงษ์  ปราบใหญ่ จากการเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยรามคำแหงตามมา

           วันนี้ (วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖) ที่ห้องประชุม ๓ ชั้น ๓  อาคารวิทยบริการและบริหาร มหาวิทยาลัยรามคำแหง ผศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่  อธิการบดีฯ พร้อมด้วยทีมบริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหง แถลงข่าว "ศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองอธิการบดีรามคำแหงคืนสู่ตำแหน่ง" หลังสภามหาวิทยาลัยถอดถอน

           ผศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่  อธิการบดีฯ กล่าว่า ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งคุ้มครองให้กลับมารับตำแห่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเป็นการชั่วคราว โดยศาลได้มีความเห็นว่า จากกรณีที่สภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้มีมติหวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕'๖๕ ถอดถอน ผศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ ออกจากตำแหน่งอธิการบดี ด้วยข้อกล่าวหาว่าประพฤติผิดจริยธรรมและจรรยาบรรณนั้น ควรต้องให้โอกาสเจ้าตัวได้ทราบข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอ และมีโอกาสได้โต้แย้งและแสดงพยานหลักฐานของตน จึงเป็นการกระทำที่น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งหากมีมติพิพาทมีผลใช้บังคับต่อไป จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไข ผศ.ดร สืบพงษ์ ปราบใหญ่ จะเสียโอกาสในการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง

         ศาลปกครองกลางจึงมีคำสั่งตามหนังสือแจ้งคำสั่งศาล คดีหมายเลขดำที่ บ.๓๖๒/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ คุ้มครองให้ ผศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ กลับมาปฏิบัติหน้าที่อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยให้ทุเลาการบังคับตามมติของสภามหาวิทยาลัยที่ได้ถอดถอน ผ.ศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ ออกจากตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาสัยรามคำแหง และทุเลาการแต่งตั้ง ผศ.ดร.บุญชาล ทองประยูร เป็นผู้รักษาราชการแทนอธิการบดี เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น

              การทุเลาการบังคับของศาลในกรณีนี้จะไม่เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของมหาวิทยาลัยหรือแก่บริการสาธารณะ โดยการปฏิบัติหน้าที่ของอธิการบดีต้องเป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ และข้อบังคับของทางราชการและของมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสภามหาวิทยาลัย
               ผศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ กล่าวต่อว่า ถึงแม้สภามหาวิทยาลัยจะไม่ยอมรับการกลับมาทำหน้าที่อธิการบดีฯ ของผมตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลก็ตาม ผมก็ไม่ใส่ใจ  แต่ผมก็จะขอทำหน้าที่อธิการบดีฯ ต่อไป รวมทั้งทีมผู้บริหารด้วย พร้อมเดินหน้าทำหน้าที่อย่างดีที่สุด