วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2567

แอลจี เปิดตัว ‘LG Subscribe’ พลิกโฉมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า

แอลจี เปิดตัว ‘LG Subscribe’ พลิกโฉมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า 

เป็นเจ้าของง่ายขึ้นด้วยบริการ Subscription


      บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ แอลจี (LG) ผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลก สานต่อความเป็นผู้นำภายใต้แบรนด์ 'Life’s Good.' เปิดตัวธุรกิจใหม่ “LG Subscribe” ภายในงาน “LG Subscribe: The Smartest Way to Own Appliance” ณ M Fashion Hall 1 ชั้น G ห้างสรรพสินค้า The Mall บางกะปิ  เมื่อวันก่อน 17 ตุลาคม 2567



 
นับเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยโมเดลธุรกิจแบบ Subscription ที่จะช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าและบริการของแอลจีได้ง่ายดายยิ่งขึ้น ผ่านการแบ่งจ่ายค่าบริการรายเดือน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายและความคุ้มค่ามากที่สุด ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุม ตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ พร้อมบริการดูแลรักษาสินค้าโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ และการรับประกันสินค้าตลอดอายุสัญญา ช่วยให้ผู้บริโภคเป็นเจ้าของเครื่องใช้ไฟฟ้าแอลจีในราคาที่คุ้มค่าได้อย่างไร้กังวล ไฮไลท์ของงานยังรวมถึงการเปิดตัวเครื่องกรองน้ำรุ่นใหม่ล่าสุด LG PuriCare ATOM 4D+ และ LG PuriCare Objet Collection ATOM V ที่มาพร้อมนวัตกรรมล้ำสมัย ตอกย้ำพันธกิจของแอลจี ‘นวัตกรรมเพื่อชีวิตที่ดีกว่า’

      นายซองฮัน จอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เทรนด์ธุรกิจ Subscription กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วทั่วโลก และแอลจีมองเห็นโอกาสที่ดีในการเติบโตของธุรกิจนี้ เราได้เริ่มต้นธุรกิจ LG Subscribe ครั้งแรกในปี 2552 ที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้ากว่า 3 ล้านคนที่เลือกใช้บริการนี้ และสามารถสร้างยอดขายได้ถึง 866 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี อีกทั้งยังประสบความสำเร็จในประเทศมาเลเซียซึ่งเปิดตัวบริการในปี 2562 ปัจจุบันมีลูกค้ากว่า 100,000 คน สร้างยอดขายได้กว่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี สำหรับประเทศไทย ธุรกิจ LG Subscribe ยังค่อนข้างใหม่ แต่เรามองเห็นศักยภาพการเติบโตอย่างมหาศาล โดยเรามุ่งมั่นที่จะผลักดันธุรกิจนี้ให้กลายเป็นผู้นำด้านยอดขายภายในสามปีข้างหน้า และคาดการณ์ว่าภายในระยะเวลาดังกล่าว ธุรกิจ LG Subscribe ในประเทศไทยจะสามารถสร้างยอดขายรวมได้ถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ”


      “LG Subscribe” โดดเด่นด้วยการพลิกโฉมธุรกิจ Subscription จากเดิมที่เน้นไปที่เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก ให้ครอบคลุมสินค้าที่หลากหลายขึ้น ตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กอย่างเครื่องกรองน้ำ เครื่องดูดฝุ่น เครื่องฟอกอากาศ และโทรทัศน์ ไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ เช่น เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า ตู้ถนอมผ้า ตู้เย็น และเครื่องปรับอากาศ รวมทั้งหมด 9 ผลิตภัณฑ์ 36 รุ่น บริการนี้ยังมาพร้อมการดูแลผลิตภัณฑ์โดยช่างผู้เชี่ยวชาญของแอลจีตลอดอายุสัญญา ซึ่งครอบคลุมระยะเวลา 5-7 ปี ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ในคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าพร้อมการใช้งานเต็มประสิทธิภาพ ด้วยระบบแบ่งจ่ายรายเดือนที่ยืดหยุ่น ทำให้การเข้าถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าพรีเมียมจากแอลจีเป็นเรื่องง่ายและคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น


     ภายในงานยังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ไฮไลต์อย่างเครื่องกรองน้ำรุ่นใหม่ล่าสุด LG PuriCare ATOM 4D+ และ LG PuriCare Objet Collection ATOM V ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของแอลจี โดดเด่นทั้งในเรื่องของดีไซน์สวยงาม สามารถติดตั้งได้ทุกพื้นที่เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย พร้อมเทคโนโลยีระบบฆ่าเชื้ออัตโนมัติ (Self-Sterilization) ที่ช่วยให้มั่นใจในความสะอาดและปลอดภัยยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสะดวกสบายในการควบคุมและจัดการผ่านแอปพลิเคชัน ThinQ โดยราคาเริ่มต้นของบริการ LG Subscribe สำหรับเครื่องกรองน้ำ รวมสินค้า ไส้กรอง และบริการดูแล เริ่มต้นเพียง 399 บาทต่อเดือน


     นอกจากนี้ ไฮไลต์สำคัญในงานคือการร่วมพูดคุยกับแดน – วรเวช ดานุวงศ์ และแพทตี้ – อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา ตัวแทนคนรุ่นใหม่ ที่มาแบ่งปันประสบการณ์การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่สะท้อนไลฟ์สไตล์ที่เน้นความคุ้มค่า สะดวกสบาย และมั่นใจได้ในคุณภาพระดับมืออาชีพ ซึ่งตรงกับความต้องการของครอบครัวสมัยใหม่อย่างแท้จริง


      ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการ LG Subscribe ได้ที่ศูนย์ข้อมูลแอลจี 02-057-5757 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.lg.com/th/subscribe และติดตามกิจกรรมต่างๆ ของแอลจีได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ LG Global และอินสตาแกรม lg_thailand

ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับแอลจีได้ที่  www.LGnewsroom.com และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ที่ 

Website: www.lg.com/th   

Facebook: www.facebook.com/LGThailand  

Instagram: www.instagram.com/lg_thailand  

X: https://x.com/LG_Thailand  

YouTube: www.youtube.com/@lgthailand   

Line: https://page.line.me/lgthailand 


วันพุธที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2567

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างชีวิต อย่างยั่งยืน มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่ครัวเรือนยากจน พร้อมนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการฟรีแก่ชาวนครพนม

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างชีวิต อย่างยั่งยืน มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่ครัวเรือนยากจน 

พร้อมนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการฟรีแก่ชาวนครพนม


      มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ที่ปรึกษาประธานกรรมการ เป็นประธานในพิธี นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ พร้อมด้วย นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ และนางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน ร่วมในพิธีมอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้กับครัวเรือนยากจนในพื้นที่จังหวัดนครพนม (จังหวัดที่ 14 ของทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) จำนวน 25 ครัวเรือน คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 612,689 บาท (หกแสนหนึ่งหมื่นสองพันหกร้อยแปดสิบเก้าบาทถ้วน) นอกจากนี้ มูลนิธิฯ ยังได้จัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมแพทย์อาสาฯ เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์ ทีมบรรเทาสาธารณภัย (กู้ชีพ) และอาสาสมัครลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ทันตกรรม คัดกรองเบาหวาน กิจกรรมนันทนาการ ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยมี นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ ปลัดจังหวัดนครพนม นายสุรพล แก้วอินธิ ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชนเป็นประธานร่วมในพิธี พร้อมด้วย คณะสมาคมพ่อค้าจังหวัดนครพนม เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี และอาสาสมัครศิลปินมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายศรสุทธา กลั่นมาลี (ถั่วแระ เชิญยิ้ม) นายธนกฤต พรามเย็น (ศรีหลอด เชิญยิ้ม) ร่วมในพิธี และสร้างสีสันภายในงาน ณ บริเวณหอประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองนครพนม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม เมื่อวันพุธที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2567


     โครงการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้สนับสนุนอุปกรณ์ประกอบอาชีพ ช่วยเหลือครัวเรือนยากจน ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือแก้ไขปัญหาความยากจน ระหว่างกรมการพัฒนาชุมชนและมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ซึ่งมูลนิธิฯ ได้จัดงบประมาณดำเนินการเพื่อจัดหาวัสดุอุปกรณ์การประกอบอาชีพมอบให้แก่ครัวเรือนยากจน ให้สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว โดยในกลุ่มเป้าหมายแรกดำเนินการในพื้นที่ภาคกลาง 17 จังหวัด รวม 98 ครัวเรือน ต่อมได้ดำเนินการในพื้นที่จังหวัดทางภาคเหนือ 17 จังหวัด รวม 230 ครัวเรือน ซึ่งได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในขณะได้พิจารณาพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 20 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครราชสีมา อุดรธานี มุกดาหาร หนองบัวลำภู บึงกาฬ ยโสธร ศรีสะเกษ มหาสารคาม ขอนแก่น อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ สกลนคร เลย หนองคาย และ นครพนม


       ตลอดระยะเวลากว่า 114 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ  www.facebook.com/pohtecktungofficial

“มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

#แอปพลิเคชัน และ #สายด่วน ป่อเต็กตึ๊ง1418

#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

วันอังคารที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2567

CP LAND X พันธมิตร ส่งต่อความสุขเดินทางได้ ปีที่ 2 “Solar Cell for Life” ให้ชุมชนห่างไกล อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น

CP LAND X พันธมิตร ส่งต่อความสุขเดินทางได้ ปีที่ 2

“Solar Cell for Life” ให้ชุมชนห่างไกล อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น 

เสริมคุณภาพเพื่อทุกชีวิต

         บริษัท ซี.พี. แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP LAND บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย เดินหน้าพร้อมพันธมิตร และ พี่น้องประชาชนชาวดงลาน อำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยหน่วยงานจากภาครัฐ อาทิ องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น องค์การบริหารส่วนตำบลดงลาน สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดขอนแก่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น บริษัท นิสสัน เคเคที จำกัด และ ภาคเอกชน ประกอบด้วย สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยจังหวัดขอนแก่น บริษัท นิปปอนเพนต์ เดคโคเรทีฟโคทติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด หอการค้าจังหวัดขอนแก่น บริษัท ซีพีแรม จำกัด หจก. พีซี. คอนสตรัคชั่น แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง บริษัท ที เอ็ม ที เอ็น ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด บริษัท ขอนแก่น บริวเวอรี่ จำกัด บริษัท พรพิวัฒน์ยานยนต์ ขอนแก่น จำกัด บริษัท ฟู๊ด ฟาสต์ ฟิน จำกัด บริษัท ดงลานศิลา จำกัด บริษัท ต.พีระกฤษ จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไทยรัฐยางยนต์ บริษัท 22 คอนซัลแต้นท์ แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด ศูนย์เชี่ยวชาญด้านธุรกิจอีเว้นท์และอุตสาหกรรมบริการแบบครบวงจร (CEMBEI) มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ อินฟลูเอนเซอร์จากเพจ Photogangs ร่วมผนึกกำลังสานต่อ โครงการ Solar Cell for Life ความสุขเดินทางได้ ปีที่ 2 ที่ ตำบลดงลาน อำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2567


       โครงการ Solar Cell for Life ความสุขเดินทางได้ เป็นโครงการที่ส่งมอบแสงสว่างจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างความปลอดภัยให้แก่ชุมชนในพื้นที่ห่างไกลและขาดแคลนไฟฟ้า ต่อเนื่องจากปี 2566 ที่ได้ทาง CP LAND ได้ริเริ่มโครงการที่ อำเภอคีรีวง จังหวัดนครศรีธรรมราช ต่อมาที่อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก และดำเนินการอย่างต่อเนื่องที่ ตำบลดงลาน อำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น โดยมอบเสาไฟโซลาร์เซลล์บริเวณถนน จำนวน 60 ต้น ระยะทางทั้งหมด 2 กิโลเมตร และโคมไฟโซลาร์เซลล์บริเวณลานกีฬาของชุมชน จำนวน 20 ต้น มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นโครงการการตอบแทนสังคม (Social Contribution) ของ CP LAND ภายใต้ปรัชญาพื้นฐาน “คุณภาพเพื่อทุกชีวิต” หรือ “Accessible Communities for Life” ของ CP LAND ที่ต้องการส่งมอบความสุขให้แก่ชุมชนที่ห่างไกล “แม้ในพื้นที่ ที่ห่างไกล ความสุขก็จะไปเป็นแสงสว่าง” ซึ่งจะมีการศึกษาการต่อยอดและพัฒนาโครงการดังกล่าวต่อไปและพร้อมเปิดรับพันธมิตรที่ต้องการขยายความร่วมมือเพื่อไปดำเนินการในพื้นที่อื่นๆ ในอนาคต


       นายกนธีร์ ติรวิภาส หัวหน้าโครงการความรับผิดชอบต่อสังคม บริษัท ซี.พี. แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP LAND เปิดเผยว่า โครงการ Solar Cell For Life ความสุขเดินทางได้ ปีที่ 2 ในครั้งนี้ถือเป็นความภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ทาง CP LAND ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งการมอบความสุขให้แก่ชุมชนอีกครั้ง ตามนโยบายเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่ดำเนินธุรกิจ ภายใต้ยุทธศาสตร์ความยั่งยืนควบคู่ไปกับการสร้างคุณค่าร่วมกันกับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ภายใต้ยุทธศาสตร์ 3 ด้านหลัก  (Heart) ด้วยใจที่ยั่งยืน  (Health) สร้างสังคม (Home) เพื่อสิ่งแวดล้อม ยังสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) ทั้ง 5 เป้าหมาย ด้วยการมอบแสงสว่างจากพลังงานสะอาด ที่เป็นหนึ่งในการยกระดับโครงสร้างขั้นพื้นฐานให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และสอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่ดังกล่าว ของ อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ที่ขาดแคลนไฟฟ้าในบางพื้นที่ การมอบเสาไฟโซลาร์เซลล์ ในครั้งนี้จึงถือเป็นการส่งต่อความสุขอย่างยั่งยืน ที่จะช่วยให้ชุมชนสามารถมีชีวิตที่ดีและปลอดภัยขึ้นได้  อีกทั้งยังได้การช่วยเหลือจากพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ สนับสนุนทั้งแรงกายและเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆในการติดตั้ง  ถือว่าเป็นการร่วมแรงร่วมใจ ตอบแทนสังคมกันอย่างแท้จริง


       นายอภิชาติ สินธุมา ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มธุรกิจภูมิภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริษัท ซี.พี. แลนด์ จำกัด (มหาชน)  หรือ CP LAND กล่าวว่า การติดตั้งระบบเสาไฟโซลาร์เซลล์ในครั้งนี้ ร่วมกันติดตั้งระบบเสาไฟโซลาร์เซลล์ เป็นปีที่ 2 ที่ทาง CP LAND ได้เป็นส่วนหนึ่งในการตอบแทนสังคม ถือเป็นความสุขจากทั้งผู้ให้ส่งต่อไปยังประชาชนผู้รับในพื้นที่ จากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคเอกชนร่วมสนับสนุน ที่มาร่วมแรงร่วมใจกันติดตั้งระบบเสาไฟโซลาร์เซลล์ เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุในการเดินทางสัญจร ช่วยให้เกิดความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการช่วยการกระตุ้นการท่องเที่ยววิถีชุมชนอีกด้วย


       นายภพพล เกษมสันต์ ณ อยุธยา ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า สีชมพูคืออำเภอห่างไกลสุดขอบของจังหวัดขอนแก่น ดีใจอย่างมากที่ทาง CP LAND นำโครงการดีๆแบบนี้มาช่วยพัฒนา ความตั้งใจของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดขอนแก่นคือ การทำเส้นทางท่องเที่ยว อำเภอสีชมพู แบบท่องเที่ยวยั่งยืน อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งธรรมชาติของสีชมพู สวยงามทำได้ เชื่อมโยงเส้นทางต่อมาจากอำเภอภูผาม่านซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวอยู่แล้ว เรามาช่วยกันพัฒนาชีวิต ความเป็นอยู่ เพิ่มรายได้ของชาวบ้าน โดยมีกิจกรรมดีๆแบบนี้เป็นตัวนำ และทางเรานำกิจกรรมต่างๆมาเสริมกัน ประชาสัมพันธ์ และเดินหน้ากันต่อไป


       นายปริญ นาชัยสิทธิ์ รองอธิการบดีประจำวิทยาเขตขอนแก่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กล่าวว่า โครงการ “Solar Cell for Life ความสุขเดินทางได้” เป็นการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างผลกระทบที่เป็นบวกต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม ในนามของมหาวิทยาลัยฯ มีความยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการฯ คณาจารย์และนักศึกษามีส่วนร่วมในการติดตั้งและวางระบบเสาไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความสำคัญของพลังงานสะอาดและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน


      นายธัชพล สิงห์นอก กรรมการผู้จัดการ บริษัท 22 คอนซัลแต้นท์ แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้มาร่วมงาน Solar Cell for Life ความสุขเดินทางได้ ปีที่ 2 ภายใต้การนำของบริษัท ซี.พี. แลนด์ จำกัด (มหาชน) มีพันธมิตรและหน่วยงานราชการต่างๆ มีความยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้และได้ร่วมส่งมอบเสาไฟโซลาร์เซลล์ เพื่อให้ประชาชน ตำบลดงลาน อำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น ได้ประโยชน์ในการเดินทางสัญจรต่างๆ และถ้ามีกิจกรรมดีๆ แบบนี้อีกบริษัทพร้อมจะสนับสนุนโครงการต่อไป


       นายวัชระ ศิริฤทธิชัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นิปปอนเพนต์ เดคโคเรทีฟโคทติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Nippon Paint กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่สีของ Nippon Paint ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Solar Cell for Life “ความสุขเดินทางได้” ปีที่ 2 นี้อย่างต่อเนื่อง เพราะเราเชื่อมั่นว่าโครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ทางกายแล้ว ยังมีส่วนช่วยเพิ่มพูนความสุขทางใจได้อย่างดีแน่นอน  รวมถึงความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้งานถนนและสนามกีฬาของชุมชนอีกด้วย อีกทั้งอาจก่อเกิดการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นในชุมชน ช่วยสร้างรายได้ในชุมชน นับเป็นการสร้างสรรค์สังคมยั่งยืนที่ให้ประโยชน์อย่างแท้จริง นอกจากนี้หลักการของโครงการฯยังสอดคล้องกับหนึ่งในกลยุทธ์การดำเนินงานของ Nippon Paint ในด้านการลดการใช้พลังงาน เพื่อมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำด้วยเช่นกัน

 #CPLAND #ซีพีแลนด์ #CPLANDคุณภาพทุกชีวิต #คุณภาพเพื่อทุกชีวิต #ความสุขเดินทางได้ #โซลาร์เซลล์ #AccessibleCommunitiesforLife #แม้ในพื้นที่ที่ห่างไกลความสุขก็จะไปเป็นแสงสว่าง #SolarCellForLife #SolarCell #ขอนแก่น #เที่ยววิถีสีชมพู

 

 

 

 

 


มาม่วนซื่นโฮแซวกับคอนเสิร์ตหมอลำปะทะลูกทุ่งอินดี้ "อีสานมาหานครอีสานแคมป์ซิ่ง"

มาม่วนซื่นโฮแซวกับคอนเสิร์ตหมอลำปะทะลูกทุ่งอินดี้  

"อีสานมาหานครอีสานแคมป์ซิ่ง"

ส่งต่อวัฒนธรรมสู่ SoftPower

     บริษัท บรรไดร์ บาร์ จำกัด ร่วมกับบริษัท เจพี วัน คอนซัลแทนท์ จำกัด และบริษัท ทรี พลัส พลัส จำกัด เตรียมจัดคอนเสิร์ต “หมอลำ ปะทะ ลูกทุ่ง อินดี้” กับ “อีสานมาหานครอีสานแคมป์ซิ่ง” เทศกาลดนตรีและแคมป์ปิ้งสุดม่วนท่วงทำนองอีสาน เพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมเพลงหมอลำ-ลูกทุ่งให้คงอยู่ และการสืบสานวัฒนธรรมผ่านบทเพลง ซึ่งในปัจจุบันทั้งเพลงหมอลำและลูกทุ่งไทยยังคงรักษาความนิยมไว้ได้อย่างดี ด้วยการปรับตัวที่ชาญฉลาดและกล้าหาญ วงการเพลงหมอลำและลูกทุ่งได้มีการปรับตัวก้าวสู่ยุคสมัยใหม่โดยไม่สูญเสียตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์ การผสมผสานระหว่างดนตรีพื้นบ้านกับแนวเพลงสมัยใหม่ไม่เพียงแต่ทำให้เพลงหมอลำหรือเพลงลูกทุ่งไทยยังคงความสดใหม่ แต่ยังสร้างสรรค์เสียงดนตรีที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม และที่สำคัญคือการพยายามการสร้างมูลค่าจากการส่งต่อวัฒนธรรมสู่ SoftPower ให้กระแสเพลงหมอลำและเพลงลูกทุ่งฟื้นคืนชีพในกลุ่มคนรุ่นใหม่

       คอนเสิร์ตหมอลำปะทะลูกทุ่งอินดี้ "อีสานมาหานครอีสานแคมป์ซิ่ง" จัดจัดใหญ่จัดเต็มตลอด 2 วัน 2 เวที ต้อนรับลมหนาวในวันที่ 13-14 ธันวาคม 2567 ณ ลานรังสิตเฟส รังสิตคลอง 6 โดยสุดยอดศิลปินหมอลำซิ่ง ลูกทุ่งตัวมัมตัวแม่ที่ชวนมาเซิ้งกันแบบบใกล้ชิด แบบเน้นๆ ฉะนั้นเตรียมมาม่วนหน้าฮ้าน มันส์หน้าแคมป์ พร้อมซิ่งกันให้สุดจัดเต็มทั้ง Lineup กับ สาวน้อยเพชรบ้านแพง ลำไย ไหทองคำ หมอลำคณะเสียงอิสาน แอน อรดี และ แพรวพราว แสงทอง ประทะความซิ่งของวงอินดี้เพื่อชีวิตสุดฮิตอย่าง ไววิทย์ Freehand Warin The Studio Project และ Greasy Cafe 

      งานนี้ห้ามพลาด! ออกมาเซิ้งมาซิ่งมาดิ้นกันได้ กับคอนเสิร์ตหมอลำ ปะทะลูกทุ่งอินดี้ "อีสานมาหานครอีสานแคมป์ซิ่ง"เทศกาลดนตรีและแคมปิ้งสุดม่วนท่วงทำนองอีสานในวันที่ 13-14 ธันวาคม 2567 ณ ลานรังสิตเฟส รังสิตคลอง 6 เพราะความม่วนคักพร้อมเสิร์ฟถึงถิ่น 

    สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามได้ที่ www.theconcert.com หรือ The Concert Application แล้ว 


วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2567

นิทรรศการศิลปกรรม“เทิดพระเกียรติ ๒ กษัตริย์ขัตติยมหาราช” ชมงานจิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ ภาพถ่าย จากศิลปินมากฝีมือ

นิทรรศการศิลปกรรม“เทิดพระเกียรติ ๒ กษัตริย์ขัตติยมหาราช”   

ชมงานจิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ ภาพถ่าย จากศิลปินมากฝีมือ


     "ตุลาคม" ถือเป็นเดือนที่ปวงชนชาวไทยน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณฯของพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักและเทิดทูนถึง ๒ พระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (พระปิยมหาราช) รัชกาลที่ ๕ และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (พระภัทรมหาราช) รัชกาลที่ ๙ ที่เสด็จสวรรคตในวันที่ ๒๓ ตุลาคม และวันที่ ๑๓ ตุลาคม


      ในโอกาสนี้ บริษัท บ้านสวนธนบุรี จำกัด และกลุ่มศิลปาศรี จึงจัดนิทรรศการศิลปกรรม“เทิดพระเกียรติ ๒ กษัตริย์ขัตติยมหาราช”  เพื่อร่วมถวายผลงานแห่งความจงรักภักดี และถวายความอาลัยแด่ ทั้ง ๒ พระองค์ที่สร้างให้ประเทศไทยสามารถดำรงอยู่ได้อย่าง มีศักดิ์ศรี มีอธิปไตย ร่มเย็นผาสุกมาอย่างยาวนาน ผ่านงานศิลปะล้ำค่าจากศิลปินมากฝีมือทั้งสาขาจิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ ภาพถ่าย และจัดทำภาพยนตร์สั้นที่สะท้อนถึงความผูกพันและความรักอันลึกซึ้งระหว่างประชาชนและพระมหากษัตริย์ และมีผลงานศิลปะ จากศิลปินแห่งชาติและศิลปินร่วมสมัยร่วมงาน ในวันที่ ๑๑-๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๗ ระหว่างเวลา ๑๐.๐๐ - ๑๙.๐๐ น. ณ ชั้น ๓ ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ นำรายได้ส่วนหนึ่งร่วมสมทบทุนมูลนิธิอานันทมหิดล

 

            ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.จิรนิติ หะวานนท์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นประธานเปิดงาน กล่าวว่า นิทรรศการศิลปกรรมเทิดทูน ๒ กษัตริย์ ในครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ ๓ แสดงถึงความสัมพันธ์ทางจิตใจอันลึกซึ้งที่คนไทยทุกคนรู้สึกเมื่ออยู่ภายใต้ร่มพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อันเปี่ยมไปด้วยความเคารพ ศรัทธา และความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นผู้ปฏิรูปประเทศอย่างกว้างขวางในด้านการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ และสังคม ทรงยกเลิกระบบทาสและริเริ่มการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้ประเทศไทยก้าวทันโลกสมัยใหม่ และทรงสร้างความเป็นปึกแผ่นให้กับประเทศ ทำให้ไทยคงความเป็นเอกราชท่ามกลางการล่าอาณานิคมของมหาอำนาจในยุคนั้น ขณะที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเป็นกษัตริย์นักพัฒนา ทรงริเริ่มโครงการในพระราชดำรินับไม่ถ้วนที่มีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกชนชั้น โดยเฉพาะด้านการเกษตร การจัดการทรัพยากรน้ำ และการพัฒนาชนบท ผลงานของพระองค์มีผลต่อความเจริญก้าวหน้า ความอุดมสมบูรณ์ของชาติ และการสร้างความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน ทั้งสองพระองค์ทรงเป็นเสาหลักสำคัญที่ได้สร้างคุณูปการอันยิ่งใหญ่ให้แก่ชาติบ้านเมืองอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย และทรงอุทิศพระวรกายและพระปัญญาเพื่อความสุขและความมั่นคงของประเทศ ทำให้ประชาชนชาวไทยอยู่ในความร่มเย็นเป็นสุข การเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงคุณูปการของทั้งสองพระองค์จึงเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที และความภาคภูมิใจในชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ เราจึงจัดนิทรรศการศิลปกรรมนี้ขึ้นมาเพื่อให้พสกนิกรไทยได้หวนรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อประชาชน และจารึกความทรงจำอันล้ำค่าผ่านงานศิลป์ที่งดงาม


​        นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. กล่าวว่า อพท. ในฐานะหน่วยงานต้นน้ำ ทำหน้าที่ในการบริหารการพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดความยั่งยืน ซึ่งได้ดำเนินการประกาศพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนคุ้งบางกะเจ้า เมื่อปี ๒๕๖๖ ซึ่งพื้นที่คุ้งบางกะเจ้าแห่งนี้ มีเรื่องราวอันทรงคุณค่า คือ พระราชกรณียกิจและพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ที่มีต่อพื้นที่คุ้งบางกะเจ้า ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย และกำลังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของไทยในปัจจุบัน การเติบโตของการท่องเที่ยวในพื้นที่นี้ ไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น แต่ยังส่งผลต่อการพัฒนาชุมชนในหลายด้าน โดยยึดมั่นในหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ซึ่งเน้นความสมดุลและความยั่งยืน อพท. จึงได้นำเรื่องราวดังกล่าวมาถ่ายทอดเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการในครั้งนี้ด้วย


        นายนิวัต มหาบุณย์ ประธานบริษัท บ้านสวนธนบุรี จำกัด และกลุ่มศิลปาศรี เป็นประธานจัดงาน กล่าวว่า นิทรรศการนี้รวบรวมผลงานจากศิลปินชั้นนำของไทยกว่า ๒๕ ท่าน ซึ่งแต่ละท่านต่างถ่ายทอดแรงบันดาลใจผ่านศิลปะในหลากหลายรูปแบบ ทั้งจิตรกรรม ประติมากรรม และการผสมผสานด้วยศิลปะภาพยนตร์สั้นชุดใหม่ โดยผลงานของศิลปินเหล่านี้เป็นดั่งเครื่องมือที่ช่วยให้ประชาชนได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงสร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับชาติบ้านเมือง นิทรรศการนี้ต้องการสะท้อนถึงการเป็นศูนย์กลางของความรักและความเมตตาที่พระมหากษัตริย์ทรงมีต่อประชาชน เปรียบเสมือนอ้อมกอดที่อบอุ่น คุ้มครอง และปกปักรักษาประชาชนของพระองค์ตลอดมา โดยเราจะนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจัดผลงานศิลปะมาร่วมสมทบทุนมูลนิธิ เพื่อยกระดับคุณภาพประชากร เฉพาะในด้านการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการนำพาประเทศสู่ความเจริญก้าวหน้า


       น้องนิวเยียร์ อัญมณี กระจ่างช่วย สาวน้อยวัย 16 ปี เป็นบุตรสาวของ อ.เอก กระจ่างช่วย จิตกรและประติมากรชื่อดัง ผู้มีฝีมือในการสร้างสรรค์งานศิลปะระดับสูง ได้สร้างความประทับใจด้วยการใช้เวลาว่างปั้นพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ ๙) อย่างสง่างาม นอกจากผลงานประติมากรรมที่โดดเด่นแล้ว น้องนิวเยียร์ยังฝึกฝนการวาดภาพเปอร์สเปคทีฟ ลายเส้น ลายไทย และผลงานศิลปะอื่นๆ ซึ่งแสดงถึงความสามารถและความมุ่งมั่นในการพัฒนาทักษะด้านศิลปะอย่างน่าชื่นชม  ใช้เวลาปั้นกว่า 2 ปีจึงสำเร็จออกมาสวยงาม


        นิทรรศการศิลปกรรม “เทิดพระเกียรติ ๒ กษัตริย์ขัตติยมหาราช” จะเปิดให้ประชาชนเข้าชมตั้งแต่วันที่ ๑๑-๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๗ ระหว่างเวลา ๑๐.๐๐ - ๑๙.๐๐ น. ณ ชั้น ๓ ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้ประชาชนทุกคนได้ร่วมระลึกถึงคุณูปการของพระมหากษัตริย์ไทยสองพระองค์ ผู้ทรงเป็นเสาหลักของความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมของชาติ


        การจัดงานในครั้งนี้ กลุ่มศิลปาศรี ได้รับการสนับสนุนจากหลายองค์กร อาทิ บริษัท เชฟรอนประเทศไทย สำรวจและผลิต จำกัด องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) (อพท.) และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) TCEB เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมรำลึกถึง ๒ พระองค์ด้วยเช่นกัน


 

แอลจี เปิดตัว ‘LG Subscribe’ พลิกโฉมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า

แอลจี เปิดตัว ‘LG Subscribe’ พลิกโฉมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า  เป็นเจ้าของง่ายขึ้นด้วยบริการ Subscription       บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศ...